เอเอฟพี – สื่อแดนภารตะเรียกร้องให้ นเรนทรา โมดี หัวหน้าพรรคภารติยะชนตะ (บีเจพี) ซึ่งชนะศึกเลือกตั้งอย่างถล่มทลายและกำลังจะก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอินเดีย เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์กับชาวมุสลิม และหลีกเลี่ยงการยั่วยุให้เกิดความแตกแยกทางศาสนา
พรรคบีเจพีซึ่งเป็นฝ่ายค้านสามารถกวาดที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรได้มากเป็นประวัติการณ์อย่างที่ไม่เคยมีพรรคใดทำได้มาก่อนในรอบ 30 ปี ซึ่งนั่นหมายความว่า โมดี จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องจับขั้วกับพรรคอื่น
อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์หลายฉบับย้ำเตือนว่า โมดี จำเป็นต้องปลอบขวัญพลเมืองกลุ่มน้อยที่ไม่ได้กาบัตรลงคะแนนให้กับเขา โดยเฉพาะชาวมุสลิมซึ่งยังไม่ลืมเหตุจลาจลในรัฐคุชราตเมื่อปี 2002 ซึ่งทำให้มีชาวมุสลิมเสียชีวิตไปเกือบ 1,000 คน หลังจากที่ โมดี ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งมุขมนตรีของรัฐดังกล่าวได้ไม่นาน
“ในความเป็นจริง พรรคบีเจพียังขาดความเชื่อมั่นจากบรรดาชนกลุ่มน้อย โดยเฉพาะชุมชนชาวมุสลิมซึ่งจะต้องได้รับการเอาใจใส่” บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ เดอะ ฮินดู ฉบับวันนี้ (17) ระบุ
“เขายังถูกมองว่าเป็นบุคคลที่สร้างความแตกแยก และไม่ใจกว้างกับประชากรกลุ่มน้อย... เพื่อที่จะอุดช่องโหว่ด้านความเชื่อมั่นนี้ คุณโมดีจะต้องทำให้สังคมเห็นว่า รัฐบาลใหม่ซึ่งมีคุณเป็นนายกรัฐมนตรีจะยึดมั่นค่านิยมที่ว่า อินเดียเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีบูรณภาพ และประชาชนทุกคนมีความเท่าเทียมกันตามรัฐธรรมนูญ”
แม้ โมดี จะพยายามชูประเด็นเรื่องธรรมาภิบาลและการพัฒนามาเป็นหลักในการหาเสียง แต่ก็ยังมีเสียงครหาว่า สมาชิกคนสำคัญของพรรคบีเจพีบางคนใช้วิธีปลุกปั่นสร้างความเกลียดชังชาวมุสลิม เพื่อเรียกคะแนนนิยมในสนามเลือกตั้งใหญ่ๆ
หนังสือพิมพ์ ดิ อินเดียน เอ็กซ์เพรส ชี้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ โมดี จะต้องกระทำเป็นอันดับแรกคือ “ผูกมิตรกับประชาชนที่ไม่ได้โหวตให้พรรคบีเจพี และทำความเข้าใจกับชาวมุสลิม”
“นับตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงในรัฐคุชราตเมื่อปี 2002 โมดี ก็ปฏิเสธที่จะเอ่ยถึงความรับผิดชอบทางการเมืองและศีลธรรมมาโดยตลอด ดังนั้น การเป็นนายกรัฐมนตรีของเขาจึงสร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยให้กับชนกลุ่มน้อยในอินเดีย ซึ่งนายกฯ โมดี ไม่สามารถละเลยปัญหาข้อนี้ได้”
ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวานนี้ (16) โมดี รับรองว่ารัฐบาลของเขาจะทำงานเพื่อพลเมืองอินเดียทั้ง 1,200 ล้านคน แต่หนังสือพิมพ์ ไทม์ส ออฟ อินเดีย ก็ตั้งข้อสังเกตว่า สภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่จะมี ส.ส. มุสลิมเพียง 24 คน ซึ่งน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 1952
ด้าน หนังสือพิมพ์ ฮินดูสถานไทม์ส ก็เตือนว่า รัฐบาลต้องไม่ปล่อยให้พวก “ไข่เน่า” ในพรรคออกมาโอ้อวดชัยชนะของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ
สื่ออินเดียทุกฉบับเห็นตรงกันว่า ผลการเลือกตั้งคราวนี้คือหายนะอย่างแท้จริงสำหรับพรรคคองเกรส ซึ่งได้ที่นั่งในสภาน้อยเป็นประวัติการณ์ หลังการรณรงค์หาเสียงที่ได้ ราหุล คานธี ทายาทตระกูลการเมืองใหญ่ที่สุดมาเป็นหัวหอก ไม่ประสบความสำเร็จ
ฮินดูสถานไทม์ส ระบุว่า ผลการเลือกตั้งคือ “สัญญาณเตือนอย่างหยาบคายที่สุด” ที่ควรจะทำให้พรรคคองเกรสหันมาปฏิรูปตัวเองใหม่
“อินเดียเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่พรรคคองเกรสไม่เปลี่ยนแปลงตาม”