เอเอฟพี - มาเลเซียแอร์ไลน์สเปิดเผยว่า เครื่องบินลำหนึ่งของบริษัทต้องงดออกบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันพฤหัสบดี (15 พ.ค.) หลังถูกรถยนต์บริการชนเข้าบริเวณท้องเครื่อง ในอุบัติเหตุล่าสุดที่กัดเซาะภาพลักษณ์ของสายการบินตามหลังการหายสาบสูญหายเที่ยวบิน MH370 คดีปริศนาที่ส่งผลให้พวกเขามีผลประกอบการไตรมาสแรกขาดทุนยับเยิน สืบเนื่องจากความเชื่อมั่นที่หดหายของผู้โดยสาร
ทางสายการบินเปิดเผยว่า จำเป็นต้องสับเปลี่ยนผู้โดยสารที่กำลังมุ่งหน้าสู่พม่าไปยังเที่ยวบินถัดไป ขณะที่ดำเนินการตรวจสอบโบอิ้ง 737-800 โดยละเอียด หลังจากมันถูกรถยนต์บริการชนบริเวณลำตัวด้านล่าง ระหว่างจอดอยู่ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย
“วิศวกรของเรากำลังอยู่ที่จุดเกิดเหตุเพื่อประเมินความเสียหาย และจากผลประเมินเบื้องต้นไม่พบความเสี่ยงทางโครงสร้างของตัวเครื่อง อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องงดบินเครื่องบินลำนี้เพื่อตรวจสอบโดยละเอียดต่อไป” อิซฮาม อิสมาอิล ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ระบุ “ความปลอดภัยของผู้โดยสารคือสิ่งสำคัญที่สุด”
เที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลนส์พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 ชีวิต สูญหายไปขณะกำลังเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์ ไปยังกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 8 มีนาคม โดยจนถึงตอนนี้ปฏิบัติการค้นหาที่ใช้งบประมาณมหาศาลในมหาสมุทรอินเดีย ก็ยังไม่พบร่องรอยใดๆ
เหตุการณ์ดังกล่าวกัดเซาะภาพลักษณ์ของสายการบินและกระทบต่อการจองตั๋วในตลาดจีน เนื่องจากผู้โดยสาร 2 ใน 3 ของเที่ยวบิน MH370 เป็นคนจีน ขณะที่วิกฤตนี้กระตุ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์สายการบินและรัฐบาลมาเลเซียอย่างดุเดือดในแดนมังกร
ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดี (15) ทางสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ได้เผยแพร่ผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาสแรก และยอมรับว่าการสูญหายของเที่ยวบิน MH370 ส่งผลกระทบอย่างฉับพลันกับผลการดำเนินงานในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2014
สายการบินแห่งชาติของมาเลเซีย ระบุว่าในช่วง 3 เดือนแรกสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม ทางบริษัทมีผลประกอบการขาดทุน 443 ล้านริงกิต (4,466 ล้านบาท) ขณะที่่ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขาดทุน 279 ล้านริงกิต (ราว 2,810 ล้านบาท) “MH370 ส่งผลกระทบอย่างฉับพลันต่อผลประกอบการไตรมาสแรกที่เดิมทีก็อ่อนแออยู่แล้ว” มาเลเซียแอร์ไลน์ส ระบุในถ้อยแถลงที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย
ในถ้อยแถลงบอกต่อว่า “การสูญหายไปของโบอิ้ง 777 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาระยะสั้นใหญ่หลวงในพฤติกรรมของผู้บริโภค ด้วยสายการบินสังเกตพบตัวเลขยกเลิกจองตั๋วระดับสูง รวมถึงจำนวนการจองเที่ยวบินเส้นทางระยะไกลที่ลดลง แล้วหันมาจองตั๋วในเส้นทางใกล้ๆแทน” มาเลเซียแอร์ไลน์ส ระบุ พร้อมยอมรับว่ายอดจำหน่ายตั๋วในจีนลดลงราว 60 เปอร์เซ็นต์ในเดือนมีนาคม ไม่นานหลังการหายไปของเที่ยวบิน MH370
ตัวเลขผลประกอบการข้างต้น นับเป็นการขาดทุน 5 ไตรมาสติดต่อกันของสายการบินแห่งนี้ และยังเป็นผลประกอบการย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2011 เลยทีเดียว