เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการอินเดียตัดสินใจส่งกำลังทหารเข้าไปประจำการใน “รัฐอัสสัม” ในวันเสาร์ (3) หลังเกิดเหตุสังหารโหดชาวมุสลิมในพื้นที่ไปแล้วอย่างน้อย 33 รายตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยสาเหตุของการนองเลือดคาดว่าเกิดจากความไม่พอใจของชนพื้นเมืองในพื้นที่ ต่อการหลั่งไหลเข้ามาของบรรดาผู้อพยพชาวมุสลิมจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างบังกลาเทศ
รายงานข่าวซึ่งอ้างกองกำลังความมั่นคงของอินเดียระบุว่า พบศพชาวมุสลิมเพิ่มอีก 9 รายที่มีร่องรอยการถูกยิงเสียชีวิตในวันเสาร์ (3) โดยในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 6 คน และเด็กๆ อีก 3 ราย และคาดว่ากลุ่มติดอาวุธของชนเผ่าพื้นเมือง “โบโด” อยู่เบื้องหลังการสังหารโหดชาวมุสลิมตลอด 3 วันที่ผ่านมา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 33 คน
ชาวบ้านรายหนึ่งจากหมู่บ้าน “มาซัลปุระ” ซึ่งเป็นชุมชนชาวมุสลิมขนาดใหญ่ในแคว้นอัสสัม เปิดเผยเหตุการณ์ระทึกต่อผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธปืนได้บุกเข้ามายังหมู่บ้านของเขาโดยส่วนใหญ่ใช้จักรยานเป็นพาหนะ ก่อนจะลงมือกราดยิงแบบไม่เลือกหน้า และมีการจุดไฟเผากระท่อมหลายหลังของชาวบ้าน
ด้านผู้แทนของชนเผ่าพื้นเมืองโบโดระบุว่า พวกชาวมุสลิมในรัฐอัสสัมส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อพยพเข้าเมืองมาอย่างผิดกฏหมายจากบังกลาเทศ และยังเข้ามารุกล้ำที่ดินทำกินของชนเผ่าของตน
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2012 เพิ่งเกิดการปะทะกันระหว่างชนเผ่าโบโดและชาวมุสลิมในรัฐแห่งนี้ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกชาสำคัญของอินเดีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย ขณะที่อีกกว่า 400,000 คนต้องอพยพหนีตายออกนอกพื้นที่