เอเจนซีส์ – Center For Economic Opportunity ได้เปิดเผยงานวิจัยล่าสุดชี้ว่า ถึงแม้จะมีอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้น แต่เกือบครึ่งของชาวเมืองนิวยอร์ก ส่วนใหญ่อยู่ในชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียมีสภาพทางเศรษฐกิจที่ต่ำเกือบเข้าใกล้อัตราความยากจนที่รัฐบาลกลางกำหนดไว้ เนื่องจากปัญหาค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่าที่สูงขึ้น อัตราค่าแรงขั้นต่ำ และสวัสดิการสังคมของรัฐที่ถูกตัด
Center For Economic Opportunity พบว่ามีชาวนิวยอร์กถึง 45.6% แทบจะไม่สามารถเลี้ยงชีพได้ถึงแม้จะมีวัยทำงานจำนวนเพิ่มมากขึ้นออกไปทำงานเต็มเวลาตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจถดถอยที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่าที่สูงขึ้น อัตราค่าแรงขั้นต่ำ และสวัสดิการสังคมของรัฐที่ถูกตัด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสภาพความยากจนในหมู่ชาวนิวยอร์ก
ได้มีการนำเสนอสถิติในวันอังคาร (29 เมษายน) ต่อประธานสภาเมืองนิวยอร์ก เมลิซา มาร์ค-วิเวริโต (Melissa Mark-Viverito) ของความไม่เท่าเทียมด้านรายได้ในนิวยอร์ก ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาหัวหน้าแผนกการเงินของนิวยอร์ก สก็อตต์ สตริงเกอร์ (Scott Stringer) ได้เปิดเผยการสำรวจถึงค่าเช่าในเมืองนิวยอร์ก โดยพบว่าอัตราเฉลี่ยของค่าเช่าในนิวยอร์กเพิ่มขึ้นถึง 75% ตั้งแต่ปี 2002-2012
นอกจากนี้ รายงานประจำปีฉบับนี้ยังชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในแง่เชื้อชาติและกลุ่มประชากร โดยพบว่า ความยากจนของชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและชาวอเมริกันเชื้อสายละตินอเมริกามีความเหมือนกันทางสถิติในปี 2008 ที่ 22.4% และ 23.5% ตามลำดับ
แต่ทว่าก่อนปี 2012 ความยากจนในหมู่ชาวเอเชียเพิ่มสูงถึง 29% สูงมากกว่าชาวอเมริกันเชื้อสายละตินอเมริกาถึง 3%
ตัวเลขนี้ระบุถึงชุมชนชาวนิวยอร์กเชื้อสายเอเชียอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น โดยเฉพาะในหมู่คนอพยพเข้าเมืองที่ไม่พูดภาษาอังกฤษที่มีคนเป็นจำนวนดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่เป็นมื้อๆ ไป และต้องการเข้าถึงสวัสดิการความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯเพื่อบรรเทาวิกฤตทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ พบว่า มากกว่าครึ่งของชุมชนเอเชียอาศัยอยู่ในควีนส์ ที่ตามรายงานวันอังคาร (29 เมษายน) นั้น ควีนส์มีตัวเลขที่ไม่น่าพึงใจเท่าไร โดยความแตกต่างทางเชื้อชาติของผู้อาศัยทำให้ควีนส์มีอัตราความยากจนเพิ่มสูงในช่วงปี 2008-2012 และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตเพราะชาวนิวยอร์กที่อาศัยในบรู๊คลินทยอยอพยพออกมาที่ควีนส์เพื่อหาที่อาศัยที่มีอัตราต่ำกว่า
แต่ปัญหาส่วนใหญ่ตกที่ชาวนิวยอร์กเชื้อสายเอเชีย โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง
นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก บิล เดอ บลาซิโอ (Bill de Blasio) ได้สัญญาที่เริ่มโครงการสอนภาษาให้ครอบคลุมนิวยอร์ก ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ชาวนิวยอร์กที่ไม่สามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้สามารถขอรับความช่วยเหลือได้ อันเป็นการลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และในปีที่ผ่านมาทางเมืองนิวยอร์กได้มีการโต้เถียงถึงแนวคิดที่จะอนุญาตให้ผู้อพยพสามารถลงคะแนนในการเลือกตั้งระดับเมือง