เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - นักโทษอเมริกันคนหนึ่งเสียชีวิตต้วยอาการหัวใจวายวานนี้ (29 เม.ย.) ภายหลังที่ขั้นตอนการประหารชีวิตถูกระงับไปนานกว่า 40 นาที เพราะความผิดพลาดจากการฉีดสารเข้าสู่ร่างกาย จนนำไปสู่ข้อกล่าวหาที่ว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยให้เขาตายด้วยความทุกข์ทรมาน
จุดจบอันน่าเศร้าของ เคลย์ตัน ล็อกเกต นักโทษต้องคดีข่มขืนแล้วฆ่า ส่งผลให้ทางการมลรัฐโอกลาโฮมาต้องเลื่อนกำหนดการประหารชีวิตนักโทษคนที่ 2 ออกไป
ล็อกเกตได้รับยา 3 ขนานตามเกณฑ์วิธีการให้ยารูปแบบใหม่ ซึ่งยังไม่เคยผ่านการทดสอบมาก่อน ในการประหารชีวิตนักโทษสองคนพร้อมกันเป็นครั้งแรกในรอบ 80 ปี
เจอร์รี แมสซี โฆษกของเรือนจำ เปิดเผยว่า โรเบิร์ต แพตตัน อธิบดีกรมราชทัณฑ์มลรัฐโอกลาโฮมาได้สั่งระงับการประหารชีวิต ล็อกเกต หลังจากที่ฉีดยาตัวแรกเข้าสู่ร่างกายเขาไปได้ 3 - 4 นาที เมื่อเวลา 18.23 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 06.23 น. ในเมืองไทย) โดยให้เหตุผลว่า เกิด “ภาวะล้มเหลวขึ้นที่หลอดเลือดดำ” (Vein failure)
โฆษกเรือนจำกล่าวว่า ล็อกเกตเสียชีวิตเพราะ “หัวใจวาย” เมื่อเวลา 07.06 น. ภายหลังได้รับยา 3 ขนาน ได้แก่ ยาระงับประสาท ยาชา และโพแทสเซียมคลอไรด์เข้าไปในปริมาณมาก
โฆษกผู้นี้กล่าวเสริมว่า แม้ว่าจะมีการฉีดสารเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายของเขา “แต่ตัวยาไม่เข้าสู่ระบบหมุนเวียนโลหิต”
จากนั้น แพตตัน ก็ออกคำสั่งให้เลื่อนการประหารชีวิต ชาร์ลส์ วอร์เนอร์ ออกไป 14 วัน ซึ่งตามกำหนดเดิมเขาจะต้องถูกประหารหลังล็อกเกต 2 ชั่วโมง
ซีวา แบรนส์เทตเตอร์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ “ทัลซา เวิลด์” ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็มเอสเอ็นบีซีว่า “เมื่อเข้าสู่กระบวนการประหารชีวิตไปได้ 13 นาที หลังจากเจ้าหน้าที่ประกาศว่าเขาหมดสติ ล็อกเกตก็เริ่มบิดตัวด้วยความเจ็บปวด นอนตัวโก่ง และขบกรามแน่น”
“เขาพึมพำไม่ได้ศัพท์อยู่หลายครั้ง ได้แต่อุทานว่า “แมน!” เขาดูทุกข์ทรมานมากจริงๆ
“เขาลุกขึ้นหลายครั้ง จนศีรษะและไหล่ออกมานอกเตียง ราวกับว่ากำลังพยายามจะลุกออกจากเตียง”
แบรนส์เทตเตอร์ เล่าต่อไปว่า หลังจากนั้นไม่นานพัศดีเรือนจำก็ปิดม่านบังตา เพื่อไม่ให้ผู้สื่อข่าวเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องประหาร
ทางฝ่าย เมเดอลีน โคเฮน ทนายความของวอร์เนอร์เน้นย้ำ “รัฐจะต้องออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวยาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความบริสุทธิ์ ประสิทธิภาพ แหล่งที่มา และผลการทดสอบใดๆ ก็ตาม”
“จะต้องไม่มีการประหารชีวิตนักโทษในโอกลาโฮมา จนกว่าจะมีให้ความกระจ่างในกรณีที่การประหารในคืนนี้ล้มเหลว”
ก่อนหน้านี้ มลรัฐโอกลาโฮมา ได้เลื่อนการประหารชีวิตนักโทษทั้งสองจากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนมีนาคม เพราะขาดแคลนสารที่จะฉีดเข้าสู่ร่างกายของนักโทษ
อย่างไรก็ตาม รัฐสามารถจัดหายาเหล่านั้นมาได้ครบถ้วน ขณะที่มีการเปลี่ยนเกณฑ์วิธีการประหารเป็นรูปแบบใหม่ และศาลยืนคำตัดสินให้ประหารชีวิตชายทั้งสอง
ทั้งนี้ ล็อกเกตถูกศาลตัดสินลงโทษเมื่อปี 2000 ในความผิดฐานข่มขืนและฆ่าหญิงสาวที่เขาลักพาตัว ทุบตี แล้วจับไปฝังทั้งเป็น ขณะที่วอร์เนอร์ถูกพิพากษาเมื่อปี 1997 ในข้อหาข่มขืนและฆ่าทารกหญิงวัย 11 เดือน