เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยในวันพุธ (23 เม.ย.) ยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสมรณะ “อีโบลา” ในประเทศกินีและไลบีเรีย ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกาได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 142 ราย
องค์การอนามัยโลกรายงานโดยอ้างผลการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการที่ระบุว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิต 142 คน มีผู้เสียชีวิตในกินี ที่เป็นประเทศต้นตอการระบาดถึง 136 ราย ส่วนในไลบีเรียพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังไม่เสียชีวิตนั้นพบในกินี 208 ราย และพบในไลบีเรียอีก 34 ราย
การระบาดของไวรัสอีโบลาล่าสุด ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก โดยพบว่าการระบาดซึ่งปะทุขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์นั้นมีจุดเริ่มต้นจากเขตป่าลึกทางตะวันออกเฉียงใต้ของกินี ก่อนที่เชื้อมรณะจะลุกลามออกจากป่าสู่เมืองภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน และหนึ่งในพื้นที่ ที่พบการติดเชื้อมากที่สุด คือ กรุงโกนากรี เมืองหลวงของกินี
ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกออกมายืนยันว่า พบการติดเชื้อที่มีลักษณะใกล้เคียงกันในประเทศเซียร์รา ลีโอน ที่อยู่ติดกับกินี ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเซียร์รา ลีโอนยอมรับว่ากำลังทำการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อยืนยันว่าไวรัสลึกลับที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อหลายรายในประเทศของตนนั้น คือเชื้ออีโบลาที่กำลังมีการระบาดอยู่ในกินีหรือไม่
ทั้งนี้ เชื้ออีโบลา ถูกตั้งชื่อตามแม่น้ำสายหนึ่งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งพบการระบาดเป็นครั้งแรกในโลก และเชื้อมรณะชนิดนี้มีการระบาดในทวีปแอฟริกามาแล้วไม่น้อยกว่า 23 ครั้ง นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1976 เป็นต้นมา
โดยการระบาดครั้งที่ทำให้มีผู้ “เสียชีวิตมากที่สุด” ถึง 280 คนนั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 1976 ในคองโก ส่วนการระบาดครั้งที่ทำให้มีผู้ “ติดเชื้อมากที่สุด” ถึง 425 รายเกิดขึ้นในช่วงปี 2000-2001 ที่ประเทศยูกันดา
