เอเจนซีส์/เอเอฟพี - ในช่วงมาราธอนถามตอบประจำปีกลางจอโทรทัศน์กับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เมื่อวานนี้(17) ที่ผู้ชมทางบ้านชาวรัสเซียสามารถโทรศัพท์เข้าไปสอบถามกับผู้นำได้โดยตรง ที่เรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควรคือ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ที่อยู่ในระหว่างการลี้ภัยในรัสเซีย ใช้วิดีโอลิงก์ส่งตรงถามปูตินถึงโครงการสอดแนมลับของรัสเซียว่ามีเหมือนเช่นที่ สหรัฐฯมีหรือไม่ และ ฟาอินา อิวาโน ชาวรัสเซียวัยเกษียณได้ร่วมถามว่า รัสเซียจะสามารถผนวกรัฐอะแลสกาเหมือนกับที่ได้ทำกับไครเมียได้หรือไม่
ทั้งนี้ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้ตอบข้อสงสัยของ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตนักวิเคราะห์ระบบของ NSAสหรัฐฯว่า รัสเซียไม่มีโครงการสอดแนมเหมือนเช่นโครงการสอดแนมลับที่สโนว์เดนได้เปิดโปงในปีที่ผ่านมา
ซึ่งสโนว์เดนได้ตั้งคำถามว่า “รัสเซียได้มีโครงการสอดแนม รวบรวมข้อมูล หรือวิเคราะห์ข้อมูลของการสื่อสารประชาชนรัสเซียโดยรวม หรือโดยส่วนบุคคลหรือไม่” และรุกโดยการตั้งคำถามต่อว่าการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการสอดแนมภายในเป็นการชอบธรรมแล้วหรือ
และทำให้สามารถเรียกเสียตบมือจากผู้ชมในห้องส่งเมื่อปูตินตอบกลับมาว่า “ คุณสโนว์เดน คุณทำงานเป็นอดีตสายลับ และผมเคยทำงานให้กับหน่วยงานข่าวกรองให้รัสเซีย เราสามารถใช้ภาษาเดียวกันสื่อสารกันได้” และปูตินกล่าวต่อไปว่า รัสเซียไม่ได้มีโครงการสอดแนมลับเหมือนในสหรัฐฯ โดยเขาย้ำแต่แรกว่า “เจ้าหน้าที่รัสเซียถูกควบคุมโดยกฏหมาย ซึ่งต้องขอหมายศาลเพื่อที่จะสอดแนมใครสักคน และรัสเซียไม่มีโครงการสอดแนมหาข้อมูลระดับเมธาดาต้า และกฏหมายรัสเซียเข้มงวดมากพอที่จะทำให้แน่ใจว่าโครงการสอดแนมขนาดใหญ่อย่างนี้จะไม่เกิดขึ้น”
อย่างไรก็ตามปูตินยอมรับว่า การสอดแนมการสื่อสารมีประโยชน์ในการหาข่าวเกี่ยวกับการก่อการร้ายและอาชญากรรม แต่รัสเซียมีเทคนิกที่ตอบโต้กับอาชญากรรม รวมไปถึงการก่อการร้ายโดยที่ไม่ต้องพึ่งการรวบรวมข้อมูลในปริมาณมาก ซึ่งปูตินกล่าวว่า “ผมหวังว่ารัสเซียไม่ต้องใช้วิธีนั้น”
และเขาเสริมต่อไปว่า “รัสเซียไม่มีเงินมากพอเหมือนที่สหรัฐฯทุ่มใช้กับโครงการเหล่านี้”
ทั้งนี้สื่ออังกฤษ หนังสือพิมพ์ดิการ์เดียนได้รายงานว่า รัสเซียได้ปรับปรุงระบบสอดแนมทางอิเล็กทรอนิก “Sorm” ที่มีประสิทธิภาพสามารถดักฟังการสนทนาทางโทรศัพท์ได้อย่างดี รวมไปถึงสอดแนมการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต และเก็บข้อมูลของผู้ใช้ รวมไปถึงสถานที่ของผู้ใช้ด้วย
แต่ถึงแม้รัสเซียอาจจะยังไม่มีเทคโนโลยีด้านการสอดแนมที่ทัดเทียม NSA ของสหรัฐฯ หรือ GCHQ ของอังกฤษ ก็ตาม ในหลายปีที่ผ่านมาพบว่ามาลแวร์ไวรัสคอมพิวเตอร์ที่มีโครงสร้างซับซ้อนหลายตัวมีต้นกำเนิดมาจากรัสเซียนั้นมีความสามารถในการดูดข้อมูลได้มหาศาล และไม่สามารถติดตามได้
และในช่วงถามตอบเดียวกันนี้ ปูตินยังเรียกเสียงฮาได้เมื่อ ฟาอินา อิวาโน ชาวรัสเซียวัยเกษียณได้ร่วมถามว่า รัสเซียจะสามารถนำอะแลสกากลับคืนสู่รัสเซียเหมือนกับที่เคยเกิดกับไครเมียได้หรือไม่
ทำให้ผู้นำรัสเซียต้องถามกลับว่า “ ฟาอินา อิวาโน ที่รัก ทำไมคุณต้องการอะแลสกา รัสเซียมีพื้นที่ถึง 70% อยู่ด้านเหนือ และไกลไปเกือบจรดขั้วโลกเหนือ อะแลสกานั้นหนาวเกินไป เราไม่ควรไปถึงขนาดนั้น”
รัสเซียได้ขายอะแลสกาให้กับสหรัฐฯตั้งแต่ปี 1867 แต่กระนั้นยังมีชนพื้นเมืองกลุ่มเล็กๆบางส่วนยังใช้คำบางคำในภาษารัสเซีย และมีโรงเรียนศาสนาสำหรับนักบวชศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์รัสเซีย
อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีรายงานว่า นอกจากคำถามว่า ปูตินชอบเหล้าวอดก้าแบบไหน และเมื่อใดจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ยังไม่มีใครตั้งคำถามว่า ปูตินจะสามารถผนวกรัฐอะแลสกาได้หรือไม่
ในขณะเดียวกัน ที่สหรัฐฯ ชาวอเมริกันได้ยื่นคำร้องออนไลน์ส่งถึงทำเนียบขาวในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่สามารถรวบรวมรายชื่อได้ 42,000 คน ก่อนวันพฤหัสบดี(17) ร้องให้สหรัฐฯคืนรัฐอะแลสกาให้รัสเซีย