เอเอฟพี - เมืองบอสตันวานนี้ (15 เม.ย.) จัดพิธีรำลึกถึงเหยื่อผู้เสียชีวิต และผู้รอดชีวิตจากเหตุระเบิดการแข่งขัน “บอสตันมาราธอน” โดยมีการยืนสงบนิ่งไว้อาลัย และเชิญธงชาติสหรัฐฯ ในวาระครบรอบ 1 ปีเหตุโจมตีที่สร้างความสะเทือนขวัญให้แก่ชาติมหาอำนาจแห่งนี้
รองประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เป็นประธานในพิธีรำลึกที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความโศกเศร้า ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมไฮนส์ ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าวจากจุดซึ่งเคยเกิดระเบิดที่คร่าชีวิตผู้คนไป 3 ราย และทำให้มีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 260 คน
ในการแข่งขันมาราธอนประจำปีนี้ที่มีขึ้นเมื่อวันจันทร์ (14) ไบเดนกล่าวว่าการเดินหน้าจัดการแข่งขันต่อจะ “ไม่เพียงเป็นการส่งข้อความถึงคนทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นการบอกพวกก่อการร้ายว่า เราจะไม่มีวันยอม เราไม่กลัวพวกมัน”
“อเมริกาจะไม่หยุด (จัดการแข่งขัน) เราคือบอสตัน เราคืออเมริกา เราตอบโต้ เราอดทน เราเผชิญหน้า และเราเป็นเจ้าของเส้นชัย พระเจ้าอวยพรทุกคน และขอพระองค์ปกป้องคนของเรา”
ขณะกำลังยืนตากฝน ไบเดน และ ดีวอล แพทริก ผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นผู้นำพิธีเชิญธงซึ่งอยู่ใกล้กับเส้นชัย จุดที่ระเบิดหม้อความดันไอน้ำ 2 ลูกปะทุขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
พิธีรำลึกซึ่งจัดขึ้นกลางแจ้งแห่งนี้เปิดฉากขึ้นด้วยเพลง “God Bless America” (พระเจ้าอวยพรอเมริกา) ขับร้องโดยนักร้องชาวไอริช โรแนน ทีแนน
ไบเดน และฝูงชนก้มศีรษะลงเพื่อสงบนิ่งไว้อาลัย ก่อนที่ระฆังโบสถ์จะดังขึ้นในเวลา 14.49 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 01.49 น.ของวันนี้ (16) ในเมืองไทย) ซึ่งเป็นเวลาที่ระเบิดลูกแรกปะทุขึ้นเมื่อปีที่แล้ว จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงขบวนปี่สกอตต์
เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น เกิดความแตกตื่นโกลาหลขึ้นเมื่อมีการอพยพประชาชนหลายร้อยคน หลังมีผู้สังเกตเห็นกระเป๋าเป้สะพายหลัง 2 ใบซึ่งไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใดอยู่ในบริเวณเดียวกับที่คนร้ายวางระเบิดไว้เมื่อปีที่แล้ว
กรมตำรวจเมืองบอสตันซึ่งกำลังตรวจสอบกระเป๋าเป้ทั้งสองใบกล่าวว่า สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่เป็นชายรายหนึ่งไว้ได้
ทั้งนี้ สองพี่น้องเชื้อสายเชเชน ที่อพยพเข้ามาอยู่ในสหรัฐฯ นานหลายปี ถูกรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตั้งข้อหาที่เป็นความผิดเกี่ยวกับการวางระเบิดทั้งสิ้น 30 ข้อหา จากเหตุโจมตีเมื่อปีที่แล้ว ในเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และมีประชากรเกือบ 1 ล้านคนแห่งนี้
ที่กรุงวอชิงตัน เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ของเขาได้เฝ้าสังเกตการณ์พิธีสงบนิ่งไว้อาลัย จากห้องทำงานของโอบามา
โอบามาแถลงว่า เขาได้ส่งความอาลัยและสวดภาวนาให้แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนรำลึกถึง “ความกล้า และความเป็นผู้นำอันน่าทึ่งของชาวบอสตันจำนวนมากที่เผชิญกับโศกนาฏกรรมอันเลวร้ายจนเกินบรรยาย”
เขาระบุในคำแถลงว่า “เราขอแสดงความซาบซึ้งอย่างที่สุด ต่อบรรดานักผจญเพลิง ตำรวจ นักวิ่งมาราธอน ผู้ชม แพทย์ผู้กล้าหาญ ซึ่งได้ร่วมกันแสดงสปิริตของชาวบอสตันอันประกอบด้วย ความมานะอุตสาหะ เสรีภาพ และความรักออกมาอย่างฉบับพลัน”
แรงระเบิดทั้งสองลูกทำให้ฝูงชนถูกสะเก็ดระเบิดจนได้รับบาดเจ็บ โดยในหมู่ผู้บาดเจ็บมีคนจำนวนมากต้องตกอยู่ในสภาพพิการแขนขา
เจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวคนร้าย 2 ราย คือ โซการ์ ซาร์เนฟ ซึ่งในเวลานี้มีอายุครบ 20 ปี และทาเมอร์ลัน พี่ชายวัย 26 ปี ได้จากรูปภาพและคลิปวิดีโอ และภายหลังการปิดเมืองไล่ล่าอยู่นาน 4 วันตำรวจก็สามารถต้อนทั้งสองให้จนมุมได้ในที่สุด
ทาเมอร์ลันจบชีวิตลงหลังประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่โซการ์ได้รับบาดเจ็บและถูกจับกุมตัว ทั้งนี้ ซาร์เนฟผู้เป็นน้องชายและมีสถานะพลเมืองสหรัฐฯ โดยการแปลงสัญชาติ มีกำหนดขึ้นศาลในเดือนพฤศจิกายน และอาจถูกพิพากษาลงโทษประหารชีวิต หากศาลตัดสินว่าเขามีความผิดจริง