เอเอฟพี – องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศเตือนวานนี้ (11 เม.ย.) ว่าภัยสู้รบในซูดานใต้ได้จุดชนวนให้เกิดความเสี่ยงขั้นรุนแรงที่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อาจมีเด็กมากถึง 50,000 คนตกอยู่ในสภาวะอดอยาก หากพวกเขายังไม่ได้รับความช่วยเหลือในทันที
กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ระบุว่านับตั้งแต่ประกาศเอกราชเมื่อปี 2011 ประชาชนในชาติแอฟริกันแห่งนี้ก็ต้องเผชิญวิกฤตขาดแคลนสารอาหารขั้นร้ายแรง และสถานการณ์ทวีความเลวร้ายยิ่งขึ้นอีกนับตั้งแต่ทหารชนเผ่า “ดิงกา” ที่ขึ้นตรงต่อต่อประธานาธิบดี ซัลวา คีร์ แห่งซูดานใต้ กับทหารชนเผ่า “นูเอร์” ซึ่งภักดีต่อ อดีตรองประธานาธิบดี รีก มาชาร์ เปิดฉากต่อสู้ห้ำหั่นกัน
องค์กรชำนาญการด้านการช่วยเหลือเด็กของยูเอ็นชี้ว่า “ตอนนี้ ความขัดแย้งที่ยังดำเนินต่อไปได้ผลักพวกเขาไปที่ริมหน้าผา ถ้ายังไม่มีการยกระดับความช่วยเหลือโดยทันที ก็อาจมีเด็กซูดานใต้ที่อายุต่ำกว่า 5 ปีเสียชีวิตถึง 50,000 คน”
นอกจากนี้ ยูนิเซฟประมาณการว่า ประชาชน 3.7 ล้านคนอาจประสบปัญหา “ขาดแคลนอาหาร”
โจนาธาน เวตช์ ผู้แทนยูนิเซฟประจำซูดานใต้กล่าวว่า “น่าเศร้าจริงๆ สถานการณ์ยังจะเลวร้ายยิ่งกว่านี้ หากสงครามยังดำเนินต่อไป และชาวไร่ไม่สามารถเพาะปลูกได้ เราจะพบว่ามีเด็กเป็นโรคขาดสารอาหารเป็นจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏในประเทศนี้มาก่อน”
“หากเรายังระดมทุนไม่ได้มากกว่านี้ และไม่สามารถเข้าถึงเด็กๆ ที่ขาดสารอาหารในซูดานใต้ได้ดีกว่านี้ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีหลายหมื่นคนจะล้มตาย”
ทั้งนี้ เป้าหมายเร่งด่วนของยูนิเซฟในตอนนี้ คือจัดหาอาหารเสริม วิตามิน และยาเม็ดสำหรับฆ่าเชื้อในน้ำดื่มเพื่อรักษาเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ 150,000 คน ที่กำลังป่วยเป็นโรคขาดสารอาหารขั้นรุนแรง รวมทั้งให้การช่วยเหลือสตรีมีครรภ์ หรือแม่ลูกอ่อน ซึ่งต้องอาศัยเงินทุนถึง 38 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.2 พันล้านบาท) แต่ในตอนนี้องค์การยังระดมทุนได้เพียง 4.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.5 ร้อยล้านบาท)
ภายหลังที่เสบียงของโครงการอาหารโลก (ดับเบิลยูเอฟพี) หน่วยงานของยูเอ็นในซูดานใต้ถูกปล้นสะดม องค์การสหประชาชาติก็ออกมากล่าวเตือนว่า การสู้รบในประเทศนี้จะสร้างความเสียหายให้แก่ผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการขจัดภัยพิบัติด้านมนุษยธรรมอันเลวร้าย
ชาวซูดานใต้เกือบ 900,000 คนต้องละทิ้งถิ่นฐานเพื่ออพยพหนีภัยสู้รบ