เอเจนซีส์ - ทหารผ่านศึกชาวอเมริกันที่เคยสู้รบในอิรักและมีปัญหาทางจิต แอบพกปืนเข้าไปกราดยิงในค่ายฟอร์ตฮูด มลรัฐเทกซัส สถานที่ซึ่งเคยเกิดเหตุกราดยิงนองเลือด 13 ศพ เมื่อ 5 ปีก่อน โดยสำหรับในครั้งนี้มีผู้สังเวยชีวิต 3 คน และบาดเจ็บอีก 16 คน จากนั้นผู้ก่อเหตุก็หันปากกระบอกปืนปลิดชีพตัวเอง
พล.ท.มาร์ก มิลลีย์ ผู้บัญชาการค่ายฟอร์ตฮูด ในมลรัฐเทกซัส ซึ่งเป็นฐานทัพที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มือปืนซึ่งก่อเหตุเมื่อวันพุธ (2 เม.ย.) เป็นทหารที่เคยไปปฏิบัติหน้าที่ในอิรักนาน 4 เดือน ในปี 2011 และกำลังรักษาอาการซึมเศร้าและกังวล รวมถึงเข้ารับการตรวจว่าเป็นโรคเครียดจากเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD) หรือไม่
สำหรับผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทั้งหมดเป็นทหาร และคนที่บาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน มีอาการสาหัส
มิลลีย์ เสริมว่า ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่า เหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย แม้ยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุอย่างชัดเจน รู้แต่เพียงทหารผู้นี้มีปัญหาสุขภาพจิตและกำลังรักษาตัวอยู่
ทั้งนี้ มือปืนใช้ปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาด .45 ที่ซื้อมาเมื่อเร็วๆ นี้ และแอบพกเข้าไปในค่าย เป็นอาวุธในการกราดยิง โดยเริ่มต้นจากอาคารทางการแพทย์ ก่อนขึ้นรถแต่ยังไม่หยุดกราดยิง และไปสิ้นสุดที่อีกอาคารหนึ่ง
ที่อาคารดังกล่าว มือปืนเผชิญหน้ากับสารวัตรทหารหญิงในระยะประมาณ 6 เมตร และตอนแรกทำทีเป็นชูมือยอมจำนน แต่แอบดึงปืนในกระเป๋าเสื้อออกมา ครั้นเมื่อสารวัตรทหารหญิงชักปืนเตรียมโต้ตอบ มือปืนก็ฉวยจังหวะยิงศีรษะตัวเอง
ไมลีย์ยกย่องความกล้าหาญของสารวัตรทหารหญิงผู้นั้น และเสริมว่า มือปืนแต่งงานแล้ว และเคยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า มีอาการบาดเจ็บที่สมอง
ถึงแม้กองทัพปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อมือปืนก่อนที่จะแจ้งให้สมาชิกครอบครัวรับทราบ แต่ ไมเคิล แม็กคอว์ ส.ส.เทกซัสซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิในสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ผู้ก่อเหตุชื่อ อิวาน โลเปซ
ขณะที่ ซีบีเอส นิวส์ และสื่ออื่นๆ อ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวนิรนามโดยระบุว่า มือปืนเป็นนายทหารชั้นประทวนระดับนายสิบ (specialist) ของกองทัพบก วัย 34 ปี
คืนวันพุธ เจ้าหน้าที่สอบสวนเริ่มตรวจสอบว่า ประสบการณ์การสู้รบของโลเปซนำไปสู่อาการทางจิตหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่า โลเปซต่อสู้หรือโต้เถียงกับใครในฐานทัพหรือไม่ก่อนก่อเหตุ โดยจะเริ่มต้นจากการซักถามภรรยาของเขา รวมทั้งค้นบ้านและคอมพิวเตอร์ที่เขาใช้
ทางด้านประธานาธิบดี บารัค โอบามา แถลงว่า รู้สึกเสียใจที่ทราบว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นอีก และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สอบสวนสืบหาสาเหตุที่แท้จริง
ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นการรื้อฟื้นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นที่ฟอร์ตฮูดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
“ทหารมากมายในฐานทัพแห่งนั้นไปปฏิบัติหน้าที่ในอิรักและปากีสถานหลายครั้ง และรับใช้ชาติด้วยความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยว เมื่อกลับมาบ้านเกิด พวกเขาควรรู้สึกได้ว่า ตัวเองปลอดภัย”
เหตุการณ์ที่โอบามาพาดพิงถึงคือ การกราดยิงเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2009 ในค่ายฟอร์ตฮูด โดย พ.ต.ไนดาล ฮาซัน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บอีกมากกว่า 30 คน
ฮาซัน ซึ่งเป็นชาวมุสลิมเชื้อสายปาเลสไตน์ที่เกิดในอเมริกา ถูกยิงตอบโต้จนบาดเจ็บเป็นอัมพาตบางส่วน เขาถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อปีที่แล้ว และกำลังรอการประหารอยู่ในขณะนี้ ฮาซัน บอกว่า เขาต้องการปกป้องมุสลิมทั่วโลกจากความก้าวร้าวรุกรานของอเมริกา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฟอร์ตฮูดครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในสถานที่ตั้งทางทหารของอเมริกานับจากเดือนกันยายนที่ผ่านมาที่แอรอน อเล็กซิส พนักงานสัญญาจ้างพลเรือน สังหารเหยื่อ 12 คนในฐานทัพเรือเนวี ยาร์ดในวอชิงตันด้วยปืนลูกซองสั้น
เดือนที่แล้ว มือปืนวัย 35 ปี ยิงทหารเรือบนเรือพิฆาตนำวิถี ยูเอสเอส มาฮัน เสียชีวิต 1 คน ขณะที่เรือจอดอยู่ที่นอร์โฟล์ก ซึ่งเป็นฐานทัพเรือใหญ่ที่สุดของอเมริกาในเวอร์จิเนีย