เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ตำรวจปากีสถานระบุว่า อดีตประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ แห่งปากีสถาน ซึ่งถูกศาลตั้งข้อหา “กบฏ” สามารถเอาชีวิตรอดจาก “เหตุลอบสังหาร” ได้อย่างหวุดหวิด โดยรถยนต์ของเขาแล่นผ่านจุดเกิดเหตุเพียงไม่นานก่อนระเบิดจะปะทุขึ้นเมื่อช่วงก่อนรุ่งสางวันนี้ (3 เม.ย.)
คนร้ายได้ลอบวางระเบิดบนเส้นทางที่เขาใช้เดินทางกลับจากโรงพยาบาลทหารในเมืองราวัลปินดี สถานที่ซึ่งเขาเข้ารับการรักษาตัวตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อกลับบ้านแถบชานกรุงอิสลามาบัด โดยระเบิดปะทุขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 04.00 น.ของวันนี้ (3) ในเมืองไทย)
ทั้งนี้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และยังไม่มีฝ่ายใดออกมาอ้างความรับผิดชอบในเหตุรุนแรงครั้งนี้
เลียกัต เนียซี เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับอาวุโสเปิดเผยว่า “ระเบิดน้ำหนัก 4 กิโลกรัมซึ่งคนร้ายลอบวางไว้ในท่อน้ำใต้สะพานเกิดปะทุขึ้นประมาณ 20 นาที ก่อนอดีตประธานาธิบดีจะเดินทางผ่านจุดดังกล่าว”
เหตุระเบิดระลอกนี้เกิดขึ้นบริเวณสี่แยกไฟซาบัด ซึ่งอยู่ระหว่างทั้งสองเมือง โดยสร้างความเสียหายให้แก่บาทวิถีขนาด 2 เมตร
เนียซีกล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีถูกพากลับบ้านโดยเปลี่ยนเส้นทาง
มูฮัมหมัด นาอีม โฆษกตำรวจกรุงอิสลามาบัด ได้ออกมาแถลงยืนยันเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมระบุว่าเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดได้ปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าวหลังจากระเบิดทำงาน และยังคงอยู่ระหว่างตรวจสอบพื้นที่โดยรอบว่ายังมีระเบิดหลงเหลืออีกหรือไม่
“ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด” เขาระบุ พร้อมเสริมว่ามูชาร์ราฟเป็นเป้าหมายของผู้ก่อเหตุ
เมื่อปีที่แล้ว มูชาร์ราฟ ซึ่งปกครองปากีสถานตั้งแต่ปี 1999 ถึง 2008 ได้เดินทางกลับจากการไปพำนักต่างประเทศเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งทั่วไป ทว่า ถูกสั่งห้ามไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งและถูกตั้งข้อหาหลายกระทง ซึ่งรวมถึงข้อหา “กบฏ”
นอกจากนี้ กลุ่มหัวรุนแรงตอลิบานยังขู่จะส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายหลายคนไปสังหารเขา และภัยคุกคามเหล่านี้ได้ทำให้เขาไม่กล้าไปขึ้นศาล จนสามารถเดินทางไปรับฟังการพิจารณาคดีข้อหากบฏได้เพียง 2 นัดเท่านั้น
เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นคราวนี้นับเป็นความพยายามลอบสังหารอดีตผู้นำคนนี้ครั้งที่ 4 โดย 3 ครั้งก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในระหว่างที่เขายังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
