เอเอฟพี – เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงและกดระเบิดฆ่าตัวตายถล่มศาลในกรุงอิสลามาบัดวันนี้ (3) ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 ราย บาดเจ็บอีก 24 คน
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกตะลึงต่อชาวเมืองหลวงอิสลามาบัด ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแทบไม่เคยเผชิญเหตุโจมตีร้ายแรง แม้ว่ากลุ่มตอลิบานจะปฏิบัติการก่อความไม่สงบในปากีสถานอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2007 ก็ตาม
ล่าสุด ยังไม่มีฝ่ายใดออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังจากที่ตอลิบานปากีสถานประกาศหยุดยิงเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อรื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลที่หยุดชะงักไปนาน
สิกันดาร์ ฮายัต ผู้บัญชาการตำรวจกรุงอิสลามาบัด เปิดเผยว่า มีเสียงปืนดังขึ้นภายในศาล จากนั้นคนร้ายได้กดระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ลูกซ้อน คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไป 11 ราย และมีเหยื่อบาดเจ็บอีก 24 คน
“คนร้ายที่เหลือหลบหนีไปได้ แต่มีอยู่รายหนึ่งที่บาดเจ็บบริเวณขาและหลัง” ฮายัต กล่าว
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุรายงานว่า พบเห็นคราบเลือดและชิ้นส่วนมนุษย์กระจัดกระจายอยู่ทั่วอาคาร
ยอดผู้เสียชีวิต 11 รายได้รับการยืนยันจากตำรวจอีกหลายนาย รวมถึง อาอิชา อิซานี โฆษกสถาบันการแพทย์ปากีสถาน ซึ่งให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ผู้บาดเจ็บ 20 คนถูกพาไปรักษาตัวที่สถาบัน และราวครึ่งหนึ่งยังมีอาการอยู่ในขั้นวิกฤต
ทนาย มูรัด อาลี ชาห์ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้นว่า “เมื่อเวลา 9.00 น.มีกลุ่มติดอาวุธประมาณ 15 คนบุกเข้ามาปิดล้อมศาล และใช้ปืนกราดยิงภายในอาคาร... คนร้ายมีปืนคาลัชนิคอฟและระเบิดมืออีกหลายลูก พวกเขาสวมเสื้อยาวคลุมเข่า แถมยังไว้ผมยาวและมีหนวดเครารุงรัง”
เมื่อวานนี้ (2) รัฐบาลปากีสถานได้ประกาศระงับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มที่ซ่อนของตอลิบานบริเวณแนวชายแดนส่วนที่ติดกับอัฟกานิสถาน เพื่อตอบสนองข้อเสนอหยุดยิงของกลุ่มติดอาวุธ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังไม่ไว้ใจท่าทีอ่อนข้อของตอลิบาน และเตือนว่าอาจเป็นเพียงกลยุทธ์ของกลุ่มก่อการร้ายเพื่อ “ซื้อเวลา” รวบรวมสมาชิกให้กลับมาเข้มแข็งอีก หลังถูกฝ่ายรัฐบาลโจมตีจนสูญเสียทั้งกำลังคนและอาวุธไปมาก