เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในอินโดนีเซียชี้ “โจโก วิโดโด” ผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตา ขึ้นแท่นเป็น “เต็งหนึ่ง” ที่มีโอกาสก้าวขึ้นครองอำนาจเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของแดนอิเหนา หลังมีคะแนนนิยมทิ้งห่างคู่แข่งขาดลอย
ผลสำรวจล่าสุดในอินโดนีเซียที่จัดทำโดยสถาบันรอย มอร์แกน รีเสิร์ช พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวอินโดนีเซียถึง 45 เปอร์เซ็นต์จะลงคะแนนเลือกนายโจโก วิโดโด หรือ “โจโกวิ” ผู้ว่าราชการจอมสีสันแห่งกรุงจาการ์ตาวัย 52 ปี เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้
ขณะที่กลุ่มตัวอย่างอีก 37 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า พวกเขาจะลงคะแนนเลือกผู้สมัครจากพรรค Indonesian Democratic Party of Struggle (PDI-P) ที่วิโดโดสังกัดอยู่ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาแดนอิเหนาที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
ผลสำรวจล่าสุดที่ทำขึ้นในประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และประเทศที่มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในกลุ่มอาเซียนอย่างอินโดนีเซียระบุว่า คะแนนนิยมของโจโก วิโดโดที่พุ่งสูงแตะระดับ 45 เปอร์เซ็นต์นั้น ส่งผลให้คะแนนนิยมของเขาทิ้งห่างคู่แข่งสำคัญอย่างนายปราโบโว ซูเบียนโต จากพรรค Great Indonesia Movement Party (GERINDRA) ถึง 30 จุดขณะที่อาบูริซัล บาครี ประธานพรรคการเมืองเก่าแก่อย่าง “Golkar” มีคะแนนนิยมล่าสุดเพียง 11 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นักวิเคราะห์การเมืองอินโดนีเซียระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คะแนนนิยมของโจโก วิโดโดพุ่งสูงและเป็นเต็งหนึ่งในตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปนั้น มาจากผลงานการบริหารที่ “เข้าตาประชาชน” ของเขา ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตา ประกอบกับแรงสนับสนุนจากฐานเสียงบนเกาะชวาที่มีสัดส่วนคิดเป็น 3 ใน 5 ส่วน จากจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 186 ล้านคนทั่วประเทศ
ทั้งนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียที่มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมปีนี้ จะถือเป็นการเลือกตั้งผู้นำอิเหนาแบบ “โดยตรง” ครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์โดยผู้ชนะจะได้เข้ามาบริหารประเทศเป็นเวลา 5 ปี แทนประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุทโธโยโนที่บริหารประเทศมาครบ 2 วาระและหมดสิทธิลงชิงชัยอีกเป็นสมัยที่ 3