เอเจนซีส์ - เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมากระดับ 8.2 ทางชายฝั่งด้านเหนือของชิลีในคืนวันอังคาร (1 เม.ย.) ทำให้เกิดสึนามิสูงกว่า 2 เมตร รวมทั้งมีการเตือนภัยคลื่นยักษ์ตลอดแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ อย่างไรก็ตาม ทางการชิลีได้ประกาศยกเลิกการเตือนแล้วในช่วงเช้าวันพุธ (2) พร้อมระบุว่ามีผู้เสียชีวิตเพียงแค่ 6 คน ซึ่งถือว่าต่ำมากสำหรับกรณีการเกิดธรณีพิบัติร้ายแรงขนาดนี้
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ รายงานว่า เมื่อเวลา 20.46 น.วันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 06.46 น.วันพุธ เวลาเมืองไทย) ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ที่ความลึก 10 กิโลเมตรใต้ทะเล ห่างจากเมืองอีกีเกทางชายฝั่งด้านตะวันออกของชิลี 83 กิโลเมตร
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวบ้านแตกตื่นและกรูกันไปที่ถนน แล้วจากนั้นก็มีประชาชนรวมกว่า 900,000 คนตลอดแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของชิลีอพยพขึ้นสู่ที่สูงตามคำสั่งของรัฐบาล เนื่องจากผลพวงจากแผ่นดินไหวทำให้เกิดคลื่นยักษ์สูงกว่า 2 เมตร
เช่นเดียวกัน ศูนย์เตือนภัยสึนามิในแปซิฟิกที่ตั้งอยู่ในฮาวายก็ออกประกาศเตือนผู้ที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นระยะทางกว่า 4,800 กิโลเมตรในอเมริกาใต้และอเมริกากลาง ดังเช่น โคลอมเบีย และปานามา รวมทั้งประกาศให้ประเทศอื่นๆ เฝาจับตาอีกอย่างน้อย 6 ประเทศ
อย่างไรก็ดี 10 ชั่วโมงหลังแผ่นดินไหว ทางการชิลียกเลิกการเตือนภัยสึนามิทั่วประเทศเมื่อช่วงเช้าวันพุธ และผู้คนเริ่มทยอยกลับบ้านหลังหลบหนีออกมากลางดึก แม้กระทรวงมหาดไทยเตือนให้ใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากระดับน้ำทะเลยังสูงกว่าปกติกว่า 1 เมตร
โรดริเกซ พีไนลิลโล รัฐมนตรีมหาดไทยชิลีแถลงว่า พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย ด้วยสาเหตุถูกผนังอาคารพังทับหรือหัวใจวาย และยังมีบาดเจ็บสาหัส 3 ราย
ขณะที่ หน่วยงานบรรเทาทุกข์ ONEMI ของชิลี รายงานในเช้าวันพุธ ว่า บางพื้นที่เกิดไฟไหม้ ถนนได้รับความเสียหาย และเกิดไฟฟ้าดับในเมืองอาริกา อย่างไรก็ดี ไม่มีความเสียหายในวงกว้างเหมือนแผ่นดินไหวครั้งก่อนหน้านี้ในชิลี ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสี่ยงเกิดแผ่นดินไหวมากที่สุดของโลก
เซร์จิโอ บาร์เรียนโตส จากหน่วยงานวิทยาการแผ่นดินไหว มหาวิทยาลัยชิลี เสริมว่า หลังจากแผ่นดินไหวใหญ่แล้ว ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาถึง 17 ครั้ง และน่าจะเกิดขึ้นอีกหลายครั้งในช่วงหลายวันต่อจากนี้ เนื่องจากบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวยังปลดปล่อยพลังงานออกมาไม่หมด นอกจากนี้ บริเวณดังกล่าวได้เกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งอยู่ก่อนแล้วในช่วงหลายวันมานี้ เช่น เมื่อวันอาทิตย์ (30 มี.ค.) ที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 ตามด้วยแผ่นดินไหวขนาดย่อมๆ อย่างน้อยอีก 2 ครั้ง
ทางด้านประธานาธิบดี มิเชล บาเชเลต ประกาศให้พื้นที่บางส่วนทางตอนเหนือของประเทศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ และสั่งการให้ส่งทหารไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อป้องกันการฉกชิงทรัพย์และความวุ่นวายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในเหตุแผ่นดินไหวปี 2010 ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และสร้างความเสียหายถึง 30,000 ล้านดอลลาร์
ที่เมืองอีกีเกซึ่งอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุด ปรากฏว่ามีนักโทษ 300 คนหลบหนีจากเรือนจำสตรีแห่งหนึ่งระหว่างเกิดความโกลาหล ทว่า กระทรวงมหาดไทยแถลงว่า สามารถจับกุมนักโทษกลับมาได้แล้ว 39 คน
แผ่นดินไหวครั้งนี้ก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ไกลกว่าชิลีมาก โดยรัฐบาลเปรูและเอกวาดอร์ต่างออกประกาศเตือนภัย แม้หลังจากนั้นเอกวาดอร์ลดระดับจากสีแดงเป็นสีอำพัน แต่ยังคงระมัดระวังอย่างสูงในบริเวณหมู่เกาะกาลาปาโกส ในแปซิฟิก
แรงสั่นสะเทือนยังรับรู้ได้ในพื้นที่ตอนในอย่างโบลิเวีย กระทั่งอินโดนีเซียซึ่งอยู่คนละฟากฝั่งมหาสมุทรกับชิลี ทางการอิเหนาก็ออกคำเตือนว่า อาจมีคลื่นสูงครึ่งเมตรอันเป็นผลจากแผ่นดินไหวในชิลี
เช่นเดียวกัน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นเผยว่า อาจเกิดคลื่นสึนามิสูง 1 เมตร เคลื่อนเข้าชายฝั่งด้านมหาสมุทรแปซิฟิกในเวลา 05.00 น.วันพฤหัสฯ (3) ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 03.00 น.ตามเวลาในไทย)