เอเอฟพี /เอเจนซีส์ - ในวันนี้(2) มอสโกขู่ที่จะตอบโต้ต่อนักการทูตสหรัฐฯหลังพบว่า ธนาคารเจพีมอร์แกน เชสของสหรัฐฯปฎิเสธการทำธุรกรรมการเงินของทูตรัสเซียที่ต้องการโอนเงินจากคาซัคสถานไปยังบริษัทประกันภัยโซกาซ และไครเมียล่าสุดวันอังคาร(1)ได้ขึ้นบัญชีดำบุคคลไม่พึงประสงค์ที่รวมถึง อดีตนายกรัฐมนตรียูเครน ยูลิยา ทีโมเชนโก อเล็กซานเดอร์ ตูร์ชินอฟ รักษาการประธานาธิบดียูเครน อาร์เซนี ยาตเซนยุก รักษาการนายกรัฐมนตรียูเครน อาร์เซน อวาคอฟ รักษาการรัฐมนตรีมหาดไทยยูเครน
“รัสเซียพิจารณาว่า การตัดสินใจของธนาคารเจพีมอร์แกน เชสที่ได้ปิดกั้นการโอนเงินของเอกอัคราชทูตรัสเซียในกรุงอัสตานา คาซัคสถาน ไปให้กับบริษัทประกันภัยโซกาซนั้นถือว่า “รับไม่ได้และไม่มีเหตุผลโดยสิ้นเชิง” ” อเล็กซานเดอร์ ลูคาชีวิช โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวผ่านแถลงการณ์
“ปฎิกริยาของเจพีมอร์แกนครั้งนี้มาจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่สหรัฐฯได้ริเริ่ม” ลูคาชีวิชแถลงต่อ
โซกาซนั้นเชื่อมโยงกับธนาคารรัสเซีย รอสสิยา ที่เป็นหนึ่งในรายชื่อของบริษัทและบุคคลที่สหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรตอบโต้มอสโกที่ได้ทำการผนวกไครเมีย
และลูคาชีวิชแถลงปิดท้ายว่า “วอชิงตันต้องข้าใจว่าสิ่งใดก็ตามที่เป็นปฎิปักษ์ต่อนักการทูตของรัสเซียนั้นไม่เพียงแต่ละเมิดกฏหมายต่างประเทศอย่างเลวร้าย แต่จะนำไปสู่มาตรการตอบโต้นักการทูตสหรัฐฯในรัสเซีย และดังนั้นสิ่งที่เจพีมอร์แกน เชสได้ทำลงไปนั้นเป็นผลร้ายต่อรัฐบาลสหรัฐฯ”
นอกจากนี้ที่ไครเมียซึ่งอยู่ในความปกครองของรัสเซียได้ออกแบล็กลิสต์บุคลที่ไม่พึงประสงค์เข้ามายังไครเมียที่มีทั้งหมด 331 คน สภารัฐไครเมียเผยกับสำนักข่าวอิตาร์ทาซเมื่อวานนี้(1)
โดยรายชื่อคนที่ห้ามเข้าไครเมียนั้นรวมไปถึงนักการเมืองชั้นนำของยูเครน และบุคคลที่อยู่ในรัฐบาลรักษาการของยูเครน เช่น
1ยูทิเลีย ทีโมเชนโก อดีตนายกรัฐมนตรียูเครน
2 อเล็กซานเดอร์ ตูร์ชินอฟ รักษาการประธานาธิบดียูเครน
3 อาร์เซนี ยาตเซนยุก รักษาการนายกรัฐมนตรียูเครน
4 อาร์เซน อวาคอฟ รักษาการรัฐมนตรีมหาดไทยยูเครน
5 ดมิโตร ยารอช หัวหน้ากลุ่มขวาจัดยูเครน
6 ดมิตรี คอร์ชินสกี หัวหน้าพรรค Bratsvo
7 วิทาลี คลิท์ชโก หัวหน้าพรรค Udar ที่เป็นหนึ่งในอดีตผู้นำการประท้วงยุเครน
8 แอนดรี พารูบี หัวหน้าหน่วยความมั่นคงยูเครน
ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทีโมเชนโกได้ใช้ถ้อยคำหยาบคายในการให้ความเห็นเกี่ยวกับชาวรัสเซีย และรัฐบาลรัสเซียจากเทปลับคำสนทนาที่เผยแพร่ผ่านอินเตอร์เนต และบรรดานักเคลื่อนไหวขวาจัดยูเครนมีส่วนรับผิดชอบในเหตุการณ์ประท้วงยูเครนที่นำมาสู่ผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ในวันที่ 5 มีนาคม รัสเซียได้ตั้งข้อกล่าวหา ดมิโตร ยารอช หัวหน้ากลุ่มขวาจัดยูเครน จากข้อหาใช้สื่อเพื่อปลุกระดมเพื่อก่อการร้าย ซึ่งศาลรัสเซียได้อนุญาตให้ทำการจับกุมลับหลังเพื่อทำคดีได้ (arrest in absentia)