เอเจนซีส์-มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 รายหลังเกิดเหตุยิงปะทะกันอย่างดุเดือดนานกว่า 2 ชั่วโมงในวันอาทิตย์ (30) ภายในกองบัญชาการหน่วยงานความมั่นคงของไนจีเรียที่อยู่ไม่ไกลจากทำเนียบประธานาธิบดี เบื้องต้นคาดอาจเกี่ยวข้องกับความพยายามแหกคุกหลบหนีของเหล่านักโทษที่เป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์
มาริลีน โอการ์ โฆษกหญิงของกองกำลังความมั่นคงไนจีเรีย ออกมาแถลงที่กรุงอบูจาโดยยอมรับว่าเหตุระทึกดังกล่าวเกี่ยวข้องกับนักโทษรายหนึ่งที่พยายามหลบหนีออกจากเรือนจำด้วยการทำร้ายร่างกายผู้คุมและชิงอาวุธปืน แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ภายในเวลาไม่นาน
อย่างไรก็ดี โอการ์แถลงเพิ่มเติมในเวลาต่อมาโดยระบุมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 รายจากเหตุการณ์นี้ แต่ไม่เปิดเผยว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัฐบาลรวมอยู่ด้วยกี่คน มีเพียงการเปิดเผยว่ามีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย
นาซีร์ เอล-รูไฟ อดีตรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลไนจีเรียซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุเผยผ่านทวิตเตอร์โดยระบุ มีการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดในวันอาทิตย์ (30) และพบเฮลิคอปเตอร์จู่โจมลำหนึ่งมุ่งหน้ามายังจุดเกิดเหตุ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นความพยายามในการแหกคุกของนักโทษเพียงคนเดียว
ขณะที่เฟมี ฟานี-คาโยเด อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกรายของรัฐบาลไนจีเรีย ออกมาเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์เช่นกันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง บริเวณกองบัญชาการหน่วยงานความมั่นคงซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทำเนียบประธานาธิบดีไนจีเรียนั้น น่าจะเป็นการต่อสู้กันอย่างเต็มรูปแบบระหว่างกองกำลังฝ่ายรัฐบาลและพวกนักรบอิสลามิสต์
ทั้งนี้ การแหกคุกหลบหนีของนักโทษไนจีเรียถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำและโดยมากมักมีเจ้าหน้าที่ซึ่งทุจริตต่อหน้าที่รู้เห็นเป็นใจด้วย อย่างไรก็ดี เหตุยิงปะทะอย่างหนักหน่วงที่กองบัญชาการสำนักงานความมั่นคงในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นตระหนกอย่างยิ่ง เพราะพื้นที่ดังกล่าวถูกใช้เป็นสถานที่ควบคุมตัวเหล่านักโทษที่เป็นสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรง “โบโก ฮารัม” ที่ออกอาละวาดเข่นฆ่าประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไปแล้วมากกว่า 1,000 คนในปีนี้และมีจุดประสงค์ตั้งรัฐอิสลามสุดโต่งในพื้นที่
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 มีนาคมเพิ่งเกิดเหตุสมาชิกกลุ่มโบโก ฮารัม โจมตีสถานที่ควบคุมตัวนักโทษด้านความมั่นคงของกองทัพไนจีเรียในเมืองไมดูกูรีทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เป็นเหตุให้นักโทษที่เป็นพวกหัวรุนแรงสามารถหลบหนีออกมาได้หลายร้อยคน ท่ามกลางรายงานข่าวที่ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในวันนั้นอย่างน้อย 425 ราย