เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สมาชิกกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “โบโก ฮารัม” ลงมือก่อเหตุโจมตีระลอกใหม่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรียในวันพุธ (19) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 47 ราย
รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลของตำรวจไนจีเรีย ระบุว่า เหตุโจมตีโดยฝีมือของกลุ่มโบโก ฮารัมล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันพุธ (19) ที่เมืองบามา ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หลังจากที่สมาชิกของกลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าวก่อเหตุกราดยิงใส่โรงเรียนแห่งหนึ่ง รวมถึงยิงชาวบ้านแบบไม่เลือกหน้า และมีการจับชาวบ้านหลายคนมาเผาทั้งเป็น
ลาวาล ตานโก ผู้บัญชาการตำรวจประจำรัฐบอร์โนของไนจีเรียยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 47 ราย จากการโจมตีของกลุ่มโบโก ฮารัม ครั้งนี้ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นพลเรือนผู้บริสุทธิ์และไม่มีอาวุธ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ (16) ที่ผ่านมา เพิ่งเกิดเหตุนักรบอิสลามิสต์ที่คาดว่า อาจเป็นสมาชิกกลุ่มโบโก ฮารัม ก่อเหตุสังหารหมู่ชาวบ้านอย่างน้อย 106 ศพ ที่หมู่บ้านอิซเก ในรัฐบอร์โนเช่นกัน
ด้าน วิลล์ สตีเวนส์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯด้านกิจการแอฟริกาออกมาแถลงในวันพุธ (19) ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.โดยประณามการโจมตีอย่างไร้เหตุผลของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ในไนจีเรีย ต่อเป้าหมายที่เป็นพลเรือนว่าเป็นสิ่งที่มิอาจยอมรับได้ พร้อมเรียกร้องให้ทางการไนจีเรีย เร่งหาทางนำตัวผู้ก่อเหตุมารับโทษตามกฎหมาย
ประธานาธิบดี กู๊ดลัค โจนาธาน ผู้นำไนจีเรียได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว และสั่งเพิ่มกำลังทหารอย่างขนานใหญ่เข้ามาในพื้นที่เพื่อกวาดล้างกลุ่มโบโก ฮารัม ที่มีเป้าหมายในการสถาปนารัฐอิสลามสุดโต่งทางตอนเหนือของประเทศ
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนความสำเร็จเดียวของกองทัพไนจีเรีย คือ การผลักดันให้พวกนักรบหัวรุนแรงถอยร่นออกจากเขตเมืองใหญ่ได้เท่านั้น และการที่พวกหัวรุนแรงหันไปตั้งมั่นอยู่ในเขตชนบท ยิ่งทำให้การกวาดล้างของทางการประสบความยากลำบากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตามรอยต่อพรมแดนด้านที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง แคเมอรูน
ทั้งนี้ ข้อมูลของรัฐบาลไนจีเรียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของทวีปแอฟริการะบุว่า มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 15,000 คน นับตั้งแต่ที่เกิดการเคลื่อนไหวของพวกนักรบอิสลามิสต์ทางตอนเหนือของประเทศเมื่อปี 2001