เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากการระบาดของเชื้อไวรัสมรณะอีโบลาทางตะวันตกของทวีปแอฟริกายังพุ่งไม่หยุด ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 70 ราย และติดเชื้ออีกอย่างน้อย 111 คนในประเทศกินี ที่เป็นต้อตอของการระบาดในครั้งนี้ ขณะที่เซเนกัลประกาศปิดพรมแดนด้านที่ติดต่อกับกินีโดยสิ้นเชิง หวั่นเชื้อร้ายแพร่กระจายเข้าสู่ประเทศของตน
การระบาดระลอกล่าสุดของไวรัสอีโบลา ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของกินี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเฉพาะที่ได้รับการยืนยันแล้วอย่างน้อย 70 คน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นอย่างน้อย 111 ราย ในวันเสาร์ (29) ส่งผลให้การระบาดของเชื้ออีโบลาครั้งนี้ เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่การระบาดเมื่อปี 2007 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 187 คนสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
ด้านกระทรวงมหาดไทยของประเทศเพื่อนบ้านอย่างเซเนกัลออกคำสั่งในวันเสาร์ (29) ปิดพรมแดนด้านทิศใต้ของประเทศที่มีอาณาเขตติดต่อกับกินีแบบไม่มีกำหนด เพื่อป้องกันมิให้การระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาลุกลามเข้ามาในเซเนกัล ทั้งนี้ เป็นการยืนยันจากรายงานของสำนักข่าวเอพีเอสของรัฐบาลเซเนกัล
ขณะที่ประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกันตะวันตก (ECOWAS) องค์กรความร่วมมือส่วนภูมิภาคออกคำแถลงแสดงความเป็นห่วงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาในกินี ไลบีเรียและเซียร์รา ลีโอน พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติเร่งให้ความช่วยเหลือในการรับมือกับภัยคุกคามจากเชื้อมรณะดังกล่าวซึ่งยังไม่มีทางรักษาและไม่มีวัคซีน
ทั้งนี้ ไวรัสอีโบลา ถูกค้นพบครั้งแรกในโลกเมื่อปี ค.ศ. 1976 ในประเทศซาอีร์ หรือสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกในปัจจุบัน โดยเชื้อมรณะซึ่งคร่าชีวิตผู้ติดเชื้อสูงถึงร้อยละ 90 ชนิดนี้มีการระบาดในแอฟริกามาแล้วเกือบ 30 ครั้ง
