เอพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ข้อมูลล่าสุดชี้อาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียราว 53.6 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งถูกทำลายลงแล้ว ภายใต้กระบวนการที่ถูกควบคุมโดยนานาชาติ
องค์กรว่าด้วยการห้ามถือครองอาวุธเคมี (OPCW) ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์ และเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2013 ออกรายงานล่าสุดที่ส่งถึงองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในวันพุธ (26 มี.ค.) โดยยืนยันว่าวัตถุดิบและสารตั้งต้นที่ใช้เป็นหัวเชื้อสำหรับอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียราว 53.6 เปอร์เซ็นต์ได้ถูกนำเข้าสู่กระบวนการทำลายที่ “นอกดินแดนซีเรีย” แล้ว ขณะที่ส่วนที่เหลือจะถูกดำเนินการกำจัดอย่างเป็นระบบภายในวันที่ 27 เมษายนนี้
ความเคลื่อนไหวล่าสุดถือเป็นข่าวที่สร้างความโล่งใจให้แก่นานาชาติ หลังเกิดการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในเดือนสิงหาคมปีที่แล้วที่ย่านชานกรุงดามัสกัสของซีเรียทำให้มีผู้เสียชีวิตนับพันคน จนรัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ถูกกดดันหนัก และยอมสละการถือครองอาวุธเคมีของตนต่อนานาชาติ ภายใต้ข้อตกลงที่มีรัสเซียเป็นตัวกลาง
ข้อมูลของ OPCW ระบุว่า อาวุธเคมีที่ได้รับการส่งมอบจากรัฐบาลซีเรียนั้นมีจำนวนมากถึง 1,300 ตัน โดยส่วนใหญ่เป็นแก๊สพิษมัสตาร์ด และสารซาริน และเส้นตายในการทำลายอาวุธร้ายแรงทั้งหมดนี้ถูกสหประชาชาติกำหนดเอาไว้ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายนปีนี้
อย่างไรก็ดี ภารกิจในการทำลายอาวุธเคมีซีเรียต้องประสบกับอุปสรรคสำคัญ จากการที่เมืองท่า “ลาทาเกีย” ของซีเรีย ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่เก็บอาวุธเคมีทั้งหมดก่อนถูกส่งออกไปทำลายนอกประเทศนั้น ถูกโจมตีด้วยจรวดไม่ทราบฝ่ายอย่างน้อย 2 ครั้งในเดือนที่ผ่านมา แม้ บัน คีมูน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติชาวเกาหลีใต้จะออกโรงยืนยันว่าปัญหาดังกล่าวไม่อาจหยุดยั้งภารกิจของนานาชาติในการปลดอาวุธเคมีซีเรียได้ก็ตาม
ด้าน บาชาร์ จาฟารี เอกอัครราชทูตซีเรียประจำยูเอ็น ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้มีความพยายามของกองกำลังฝ่ายกบฏในการควบคุมเมืองท่าลาทาเกีย ซึ่งหากความพยายามดังกล่าวประสบความสำเร็จ ฝ่ายกบฏก็จะได้เข้าถึงแหล่งเก็บอาวุธเคมีจำนวนมหาศาล และจะก่อให้เกิดหายนะใหญ่ตามมา
นอกจากการถูกโจมตีดังกล่าวแล้ว คณะทำงานของ OPCW ยังเผชิญกับปัญหาด้านการขนส่งลำเลียงอาวุธเคมีออกจากแผ่นดินซีเรีย เนื่องจากที่ผ่านมาต้องอาศัยการลำเลียงอาวุธเคมีผ่านความช่วยเหลือของเรือสินค้าที่รัฐบาลเดนมาร์กและนอร์เวย์ส่งมาช่วยเหลือ
จากนั้นต้องมีการส่งต่ออาวุธเคมีไปยังเรือสัญชาติอเมริกัน “เอ็มวี เคป เรย์” ที่ลอยลำอยู่บริเวณท่าเรือทางภาคใต้ของอิตาลี โดยบนเรืออเมริกันลำนี้มีการติดตั้งอุปกรณ์ซึ่งมีเพียง 2 ชุด สำหรับทำลายหัวเชื้ออาวุธเคมีซีเรียให้เสื่อมสภาพ
ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในซีเรียที่ดำเนินมานานเข้าสู่ปีที่ 4 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 140,000 คนตามข้อมูลของสหประชาชาติ ขณะที่ชาวซีเรียอีกอย่างน้อย 1 ใน 4 จากทั้งหมดกว่า 23 ล้านคนต้องกลายสภาพเป็นผู้ลี้ภัย