เอเจนซีส์ - ในวันนี้ (21) ผู้นำชาติอียูได้ลงนามสัญญาความร่วมมือใกล้ชิดด้านการเมืองกับยูเครน ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการสนับสนุนยูเครนในวิกฤตที่รัสเซียได้ลงนามในสนธิสัญญาผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศก่อนหน้านี้
การลงนามครั้งนี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่สหภาพยุโรปได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มขึ้น ซึ่งสัญญาความร่วมมือที่เพิ่งบรรลุไปนี้เป็นฉบับเดียวกับที่อดีตประธานาธิบดียูเครน วิกเตอร์ ยานูโควิช ปฏิเสธที่จะลงนามในปลายปีที่ผ่านมา และเป็นผลทำให้เกิดการประท้วงต้านรัฐบาลเขาครั้งใหญ่ และนำมาสู่การล้มสลายอำนาจของยานูโควิช ซึ่งเป็นผลท้ายสุดทำให้รัสเซียผนวกไครเมีย
และในวันเดียวกันนี้ (21) สภาสูงรัสเซียมีมติอนุมัติการยอมรับให้ไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
ซึ่งข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรปและยูเครนที่เพิ่งลงนามนี้ได้ถูกออกแบบเพิ่อช่วยสนับสนุนอำนาจความเป็นผู้นำของ นายกรัฐมนตรีรักษาการยูเครน อาร์เซนีย์ ยัตเซเนียค ในความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจและการเมืองต่อยูเครน
แต่อย่างไรก็ตามนักข่าวบีบีซีประจำบรัสเซลส์ได้เปิดเผยว่า ข้อตกลงที่ได้ลงนามในวันนี้ (21) ยังไม่ใช่ฉบับเต็มที่ยานูโควิชได้ปฏิเสธที่จะลงนามไปในเดือนพฤศจิกายน 2013 ซึ่งพบว่ายังมีอีกหลายส่วนของสัญญาที่ยังไม่ได้ลงนามร่วม ซึ่งต้องรอหลังจากมีการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนคนใหม่ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะส่วนสำคัญที่ระบุถึงข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอียูและยูเครนนั้นยังไม่ได้ถูกลงนาม
และสหภาพยุโรปกล่าวว่า จะเดินหน้าความร่วมมือที่คล้ายกับที่ได้ตกลงกับยูเครนกับประเทศอดีตสหภาพโซเวียตอีก 2 ประเทศที่เหลือ คือ จอร์เจีย และ มอลโดวา ในหน้าร้อนที่จะถึงนี้ ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้ (20) อ้างจากเอเฟพี มีข่าวว่ามอลโดวามีความประสงค์ที่ต้องการผนวกเข้ากับรัสเซียหลังจากเห็นการรวมตัวของไครเมียและรัสเซีย