xs
xsm
sm
md
lg

อิรักเสนอร่างกฎหมายใหม่ ให้เด็กหย่าได้ตอน 9 ขวบ - ภรรยาห้ามขัดใจเวลาสามีชวน “ขึ้นเตียง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - ร่างกฎหมายที่มีการเสนอในช่วงก่อนที่อิรักจะจัดการเลือกตั้งรัฐสภา ซึ่งฝ่ายต่อต้านกล่าวว่าเปิดทางให้การแต่งงานในวัยเด็ก และการขืนใจภรรยาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ได้จุดชนวนให้เกิดการโต้เถียงกันในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่เกิดการประจันหน้ากันระหว่างนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิกับฝ่ายสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้

ร่างกฎหมายซึ่งมีชื่อว่า “กฎหมายสถานะบุคคลจาฟารี” ฉบับนี้ กำหนดกฎระเบียบต่างๆ ในการจัดการมรดก การสมรส และการหย่าร้าง

บรรดาผู้ที่ส่งเสริมร่างกฎหมาย ซึ่งตั้งชื่อตามสำนักนิติศาสตร์ของศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ฉบับนี้กล่าวว่า กฎระเบียบดังกล่าวมีขึ้นเพื่อควบคุมการปฏิบัติที่เกิดขึ้นในสังคมอยู่ทุกวัน

ขณะที่ฝ่ายต่อต้านชี้ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเสื่อมถอยของสิทธิสตรีในอิรัก ทั้งยังแสดงความกังวลว่า อาจทำให้สายสัมพันธ์ระหว่างชุมชนต่างนิกายในประเทศ ซึ่งแต่เดิมก็เปราะบางอยู่แล้วกลับเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม ในช่วงที่เหตุรุนแรงก่อนการเลือกตั้งรัฐสภาเดือนเมษายน กำลังทวีความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ

บรรดานักวิจารณ์ได้ยกประเด็นมาตรา 147 ในร่างกฎหมายฉบับนี้ ที่อนุญาตให้เด็กสามารถหย่าร้างได้เมื่ออายุครบ 9 ขวบ ซึ่งก็หมายความว่า พวกเขาสามารถแต่งงานได้ตั้งแต่อายุน้อยกว่านั้น และอีกมาตราหนึ่งซึ่งกำหนดว่า ภรรยาจะต้องยอมมีเพศสัมพันธ์กับสามีทุกครั้งที่เขาเรียกร้อง

นอกจากนี้ ยังมีมาตราอื่นๆ ที่ถูกเยาะเย้ยเพราะมีรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่การกำหนดเงื่อนไขว่าแม่ต้องให้นมลูก ไปจนถึงสามีที่มีภรรยาหลายคนจะต้องให้เวลาภรรยาแต่ละคนอย่างน้อยกี่คืน และเขาสามารถขอเวลาเพิ่มได้กี่คืน

อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายส่วนที่จุดชนวนให้เกิดกระแสโกรธเคืองมากที่สุด คือมาตราที่เกี่ยวข้องกับการสมรสและการหย่าร้างของเด็กสาวในอิรัก ประเทศที่มีผู้หญิงถึง 1 ใน 4 แต่งงานก่อนอายุครบ 18 ปี ทั้งนี้ตามข้อมูลของการศึกษาในปี 2013 ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานอ้างอิงทางประชากร ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตัน

อย่างไรก็ตาม เหล่านักวิเคราะห์ได้เมินเฉยต่อร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยชี้ว่ามันถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และระบุว่าไม่น่าจะได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรอิรัก

ทางด้าน ฮานา เอ็ดวาร์ นักเคลื่อนไหวที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นประธานองค์กรการกุศล อัล-อะมา (ซึ่งมีความหมายว่า ‘ความหวัง’ ในภาษาอาหรับ) กล่าวว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ เป็นการก่ออาชญากรรมทางมนุษยธรรม และเป็นการล่วงละเมิดสิทธิเด็ก”

มีหลายฝ่ายที่คิดเห็นตรงกับเอ็ดวาร์ นับตั้งแต่ฝ่ายต่อต้านในประเทศไปจนถึง องค์การฮิวแมน ไรต์วอตช์ (เอชอาร์ดับเบิลยู) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครนิวยอร์ก และกระทั่งนักการทูตอิรักประจำสหประชาชาติ ที่กล่าวว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ “อาจสร้างความแตกแยกให้กับอัตลักษณ์ของชาติ”

นอกจากนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังเผชิญกับเสียงคัดค้านจากเหล่าผู้นำศาสนา หนึ่งในนั้นคือ บาชีร์ นาจาฟา ครูสอนศาสนาระดับอาวุโสที่สุดคนหนึ่งของนิกายชีอะห์ ซึ่งในเดือนนี้ได้ออกฟัตวา (คำวินิจฉัยชี้ขาดทางศาสนา) ที่ระบุว่าร่างกฎหมายฉบับนี้มีปัญหาทั้ง “ทางด้านกฎหมายและด้านคำสอน” หลายประการ ซึ่ง “ไม่มีนักวิชาการคนไหนเห็นด้วย”

อย่างไรก็ตาม ส.ส.อัมมาร์ โตมา จากพรรคฟะดีลา ซึ่งเป็นชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ที่สนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้กล่าวว่ากฎหมายฉบับนี้จะพัฒนาแนวปฏิบัติที่ยึดถือกันมานานหลายปี ที่กำหนดให้คู่สามีภรรยาเดินทางไปพบผู้นำในท้องถิ่นเวลาเกิดความขัดแย้งในครอบครัว โดยระบุว่า “แทนที่จะปล่อยให้ชีวิตสมรสเป็นแบบดั้งเดิม กฎหมายฉบับใหม่จะให้สถาบันของรัฐเป็นผู้แก้ไขปัญหา และพัฒนาระบบให้มีความทันสมัย”

กำลังโหลดความคิดเห็น