วิกฤตยูเครนทำมหาอำนาจแตกแยกหนัก อาจกระทบการเจรจารอบใหม่เพื่อแก้ปัญหา “นิวเคลียร์อิหร่าน”

รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-อิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจหวังสร้างความคืบหน้าในการเจรจาแก้ปัญหาโครงการนิวเคลียร์ของรัฐบาลเตหะรานที่มีกำหนดเปิดฉากขึ้นอีกครั้งในวันอังคาร (18) ที่กรุงเวียนนาของออสเตรีย โดยนักการทูตตะวันตกหวัง วิกฤตในยูเครนที่ทำให้ชาติตะวันตกและรัสเซียแตกแยกหนัก จะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อการหาทางออกให้กับโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน

รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวทางการทูตเผยว่า จนถึงขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังคงมีความคาดหวังว่า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและโลกตะวันตก จากกรณีวิกฤตยูเครน-ไครเมีย ซึ่งถือเป็นการเผชิญหน้าที่เลวร้ายที่สุดระหว่างตะวันออก-ตะวันตกนับตั้งแต่ยุค “สงครามเย็น” จะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อการเจรจารอบใหม่ เพื่อแก้ปัญหาโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน

นักการทูตตะวันตกซึ่งไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่งระบุว่า การเจรจาที่จะเปิดฉากขึ้นที่กรุงเวียนนาจะถือเป็นบททดสอบสำคัญถึงความเป็นเอกภาพในหมู่ชาติมหาอำนาจที่ความสัมพันธ์ระหว่างกันอยู่ในภาวะตึงเครียดหนักจากผลของวิกฤตในยูเครน

รายงานข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ตัดสินใจไม่ส่งเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศเข้าร่วมการเจรจาที่เมืองหลวงของออสเตรียในวันอังคาร (18) โดยให้เซอร์เก เรียบคอฟ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศทำหน้าที่หัวหน้าทีมเจรจาของรัสเซีย แม้ทางโลกตะวันตกจะส่งนางแคเธอรีน แอชตัน ประธานนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสระดับสูงสุดเข้าร่วมการเจรจาที่เวียนนาก็ตาม

ด้านโมฮัมหมัด จาวาด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมเจรจาของรัฐบาลเตหะรานออกมายอมรับว่า การเจรจารอบใหม่เพื่อแก้ปัญหาโครงการนิวเคลียร์อิหร่านอาจเผชิญกับสถานการณ์ที่ “ซับซ้อน” มากขึ้นกว่าการหารือรอบที่แล้ว ที่มีขึ้นในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ซึ่งรวมถึงรอยร้าวของชาติมหาอำนาจจากวิกฤตยูเครนและไครเมีย

ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน อิหร่านและ 6 มหาอำนาจสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวที่ระบุว่า อิหร่านจะยอมหยุดการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในระดับที่สูงขึ้นเพื่อยุติความเป็นไปได้ใดๆในการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ แลกเปลี่ยนกับการที่นานาชาติจะยอมผ่อนคลายความเข้มงวดของมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน ท่ามกลางความพยายามของนานาชาติที่คาดหวังจะผลักดันให้มีการบรรลุข้อตกลงฉบับสมบูรณ์เพื่อแก้ปัญหาโครงการนิวเคลียร์อิหร่านภายในเดือนกรกฎาคมนี้