เอเอฟพี - เหตุระเบิดรุนแรงที่เกิดจากแก๊สรั่วได้ทำให้อพาร์ตเมนต์สองหลัง ในแมนฮัตตันพังถล่มลงมาวานนี้ (12 มี.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และบาดเจ็บ 63 คน
บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “โศกนาฏกรรมครั้งเลวร้ายที่สุด” และศาลากลางระบุว่ายังหาผู้อยู่อาศัยในอาคารทั้งสองหลังไม่พบ 9 คน จนตกกลางคืน
บรรดาพนักงานผจญเพลิงต่างทุ่มเทแรงกายเพื่อดับไฟในย่านอีสต์ฮาร์เลมตลอดทั้งช่วงบ่าย โดยผู้เห็นเหตุการณ์ได้บรรยายสถานที่เกิดเหตุว่ามีกลุ่มควันพวยพุ่ง และซากปรักหักพังที่เต็มไปด้วยฝุ่นเกรอะกรังราวกับเขตสงคราม
เหตุระเบิดครั้งนี้ได้จุดประกายให้ชาวเมืองนิวยอร์กบางส่วนหวนนึกถึง เหตุก่อการร้ายที่ทำให้ตึกเวิล์ดเทรดเซนเตอร์พังถล่มลงมา เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์บางคนบอกว่ารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเหมือนเกิดแผ่นดินไหว
ในอพาร์ตเมนต์ 2 หลังที่พังถล่มลงมามีห้องพักทั้งหมด 15 ห้อง เดอ บลาซิโอ และเหล่าเจ้าหน้าที่เทศบาลนครนิวยอร์กบอกกับผู้สื่อข่าวในบริเวณใกล้พื้นที่เกิดเหตุบนถนนสาย 116 และถนนพาร์กอเวนิว ซึ่งเป็นชุมชนที่ผู้อาศัยส่วนใหญ่เป็นชาวละตินอเมริกา
ก่อนที่จะเกิดเหตุราว 15 นาที มีผู้อยู่อาศัยในอพาร์ตเมนต์ใกล้เคียงโทรศัพท์ไปที่บริษัทพลังงาน คอนเอดิสัน เพื่อแจ้งพนักงานซ่อมบำรุงว่าได้กลิ่นเหม็นเหมือนแก๊ส
เหตุระเบิดครั้งนี้ปะทุขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 20.30 น.ในเมืองไทย) และกรมดับเพลิงนิวยอร์กกล่าวว่าบรรดาพนักงานดับเพลิงได้ไปถึงที่เกิดเหตุในอีก 2 นาทีต่อมา
เหตุการณ์นี้นับเป็นหายนะร้ายแรงจากแก๊สระเบิดครั้งแรกที่เกิดขึ้นในเมืองที่มีประชากร 8 ล้านคนแห่งนี้ นับตั้งแต่นายกเทศมนตรีจากพรรคเดโมแครต เข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม และได้กระตุ้นให้เกิดความกังวลในเรื่องความปลอดภัยในย่านที่หรูหราน้อยกว่า
ทางด้านโฆษกของกรมดับเพลิงนิวยอร์กกล่าวกับเอเอฟพีว่า ยอดผู้เสียชีวิตได้เขยิบขึ้นเป็น 4 ราย เมื่อเช้านี้ โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้หญิง 2 คน
โรงพยาบาล 4 แห่งระบุกับเอเอฟพีว่า มีผู้บาดเจ็บมาเข้ารับการรักษาทั้งหมด 63 คน ซึ่งส่วนใหญ่บาดเจ็บเล็กน้อย
นอกจากนี้ แรงระเบิดยังส่งผลให้รถไฟทั้งขาเข้าและขาออกจากสถานีแกรนด์เซ็นทรัล ใจกลางแมนฮัตตันต้องหยุดให้บริการไปพักใหญ่