เอเอฟพี - อุรุกวัยตราหน้าองค์การสหประชาชาติว่า “หัวโบราณคร่ำครึ” วานนี้ (5 มี.ค.) ภายหลังที่องค์การความร่วมมือระดับโลกแห่งนี้ ออกมากล่าววิพากษ์วิจารณ์กฎหมายอุรุกวัยที่คุ้มครองการเสพและการขายกัญชาฉบับแรกของโลก
คณะกรรมการควบคุมสารเสพติดนานาชาติ (ไอเอ็นซีบี) ซึ่งเป็นองค์การชำนาญพิเศษด้านการต่อต้านยาเสพติดของยูเอ็น ออกมากล่าวเตือนอุรุกวัย ตลอดจนรัฐโคโลราโด และวอชิงตันของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (4) ว่า การอนุญาตให้พลเมืองสามารถเสพกัญชาเพื่อความเพลิดเพลินนั้นเป็นการฝ่าฝืนสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
ในรายงานประจำปี ไอเอ็นซีบีระบุว่า พบแนวโน้มที่ “อันตราย” ในอุรุกวัย ภายหลังที่ประเทศนี้เห็นชอบกฎหมายนำร่องที่อนุญาตให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายฉบับนี้ จนอุรุกวัยกลายเป็นชาติแรกในโลกที่รัฐบาลควบคุมดูแลการผลิตและการขายสิ่งเสพติดชนิดนี้
ประธานาธิบดี โฮเซ มูฮิกา วัย 78 ปี ของอุรุกวัย ซึ่งสำเร็จการศึกษาด้านการแพทย์ และเป็นพวกฝ่ายซ้าย ได้ออกมากล่าวตอบโต้ว่า “องค์การสหประชาชาติหัวโบราณค่ำครึมาก ที่มาไล่บี้เราอย่างนี้”
เขากล่าวเสริมว่า “อย่างไรก็ตาม เราจะให้ความสนใจพวกเขา เท่าๆ กับตอนที่พวกชาติมหาอำนาจตัดสินใจไม่ยอมรับ (สาสน์ของยูเอ็น) อยู่เป็นประจำก็แล้วกัน”
“คราวนี้เราจะต้องประสบความสำเร็จในการเสนอแนวทางปฏิรูปแนวใหม่” มูฮิกากล่าว
ทั้งนี้ กฎหมายกัญชาได้ผ่านความเห็นชอบจากบรรดาสมาชิกสภาอุรุกวัย โดยมีประธานาธิบดีมูฮิกาเป็นผู้ผลักดันร่างกฎหมาย และมีกำหนดจะนำมาบังคับใช้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากมีการออกกฎระเบียบข้อบังคับเฉพาะแล้ว”
กฎหมายของอุรุกวัยซึ่งเป็นที่โจษจันฉบับนี้จะให้สิทธิในการแจกจ่ายและจำหน่ายกัญชา โดยอนุญาตให้ชาวอุรุกวัยทุกคนสามารถปลูกกัญชาได้ในอัตราเล็กน้อยไว้สำหรับเสพเองเท่านั้น ทั้งยังจะมีการจัดตั้งชมรมผู้เสพกัญชา ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ความควบคุมดูแลของรัฐ
การที่ชาติละตินอเมริกาซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นชนบท และประชาชนที่มีเพียง 3.2 ล้านคนได้รับการศึกษาสูง แห่งนี้ตัดสินใจกำหนดให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ได้ช่วยให้ประเทศสามารถกอบโกยเงินรายได้จากบรรดาบริษัทยาทั่วโลก ที่ต้องการสั่งซื้อกัญชาไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์