เอเฟพี/เอเจนซีส์ - ในวันนี้ (3 มี.ค.) “Mt GOX” บ.แลกเปลี่ยนเงินบิตคอยน์ได้ทำการเปิดสายฮอตไลน์สำหรับลูกค้าที่ไม่สามารถถอนเงินในบัญชีกับบริษัทได้ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัท Mt GOXได้ยื่นขอล้มละลายต่อศาลญี่ปุ่นในวันศุกร์ (28 ก.พ.) ที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่ามีเงินลูกค้าสูญจากการถูกโจรกรรมด้านความปลอดภัยสูงถึง 750,000 บิตคอยน์ หรือเกือบ 500 ล้านดอลลาร์
ในวันศุกร์ (28กุมภาพันธ์) ที่ผ่านมา บริษัท Mt GOX ได้ยื่นขอล้มละลายกับศาลแขวงกรุงโตเกียว และได้เปิดเผยถึงจำนวนหนี้เกือบ 500 ล้านดอลลาร์ที่เสียไปเนื่องมาจากถูกโจรกรรมทางการเงิน ซึ่งทางคอลเซ็นเตอร์ตามหมายเลข+81-3-4588-3921 ในเวลาทำการปกติจะตอบทุกคำถามที่เกี่ยวกับ Mt GOX อ้างจากทางเว็บไซต์ของบริษัทที่ได้เผยแพร่วันนี้ และ “การวิเคราะห์สถานการณ์จะแจ้งให้ทราบบนเว็บไต์โดยเร็วที่สุด” Mt GOX เผย
นอกจากนี้ ทนายความของ Mt GOX ยังยอมเปิดเผยว่า เงินในบัญชีของลูกค้าบริษัทมูลค่า 750,000 บิตคอย์น หรือ 447 ล้านดอลลาร์ (อ้างอิงจากเรตอัตราแลกเปลี่ยนของ Coindesk exchange ในวันนี้) ได้สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ด้านซีอีโอของบริษัท มาร์ก คาร์เพลเลส ที่ไม่ได้ปรากฏตัวต่อที่สาธารณะมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว ได้ปรากฏตัวขึ้นในการประชุมเมื่อวันศุกร์ (28 กุมภาพันธ์) พร้อมทั้งเปิดเผยตัวเลขการสูญเสียที่แท้จริงของบริษัท พร้อมทั้งได้ขอโทษต่อลูกค้าบริษัททั้งหมด
ซึ่งก่อนหน้านั้น Mt Gox ได้อ้างว่าทำธุรกรรมเกือบ 80% ของธุรกรรมออนไลน์ในโลกสกุลเงินดิจิตอล และเป็นแหล่งอ้างอิงหลักของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบิตคอยน์ และที่ผ่านมาสกุลเงินโลกออนไลน์นี้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลประเทศไหนอย่างเป็นทางการ และไม่มีธนาคารประเทศใดประกาศยอมรับ จึงทำให้ยากต่อการได้เงินคืนหากมีความสูญเสียเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ธนาคารกลางทั่วโลกได้ร่วมกันทลายบิตคอยน์ และสั่งห้ามไม่ให้สถาบันทางการเงินยอมรับสกุลเงินนี้เพราะไม่มีสถานภาพทางกฎหมายมารองรับ หรือสถานภาพทางการคลังมาค้ำเหมือนกับเช่นสกุลเงินประเทศต่างๆ เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐ