เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สำนักงานปกป้องชายแดนของรัฐบาลรัสเซียเผยในวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) โดยระบุว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมามีชาวยูเครนกว่า 675,000 คนเดินทางออกนอกประเทศของตัวเองและเข้ามาลี้ภัยในรัสเซีย เพราะหวาดกลัวผลของความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศ ชี้จำนวนชาวยูเครนที่ยังคงหลั่งไหลออกนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งสัญญาณการเกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งเลวร้าย
สำนักข่าวอิตาร์-ทาสส์ของรัสเซีย รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของสำนักงานปกป้องชายแดนของรัฐบาลมอสโก ซึ่งระบุว่ามีชาวยูเครนจำนวนกว่า 675,000 คนเดินทางเข้ามาขอลี้ภัยในรัสเซียในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มที่ชาวยูเครนจะเดินทางเข้ามาในรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายได้เกิดขึ้นแล้วในยูเครน
ทั้งนี้ ข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของรัสเซียระบุว่า ขณะนี้จำนวนชาวยูเครนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในรัสเซียอย่างเป็นทางการ มีจำนวนไม่น้อยกว่า 1.9 ล้านคน แม้ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรจะระบุว่าในความเป็นจริงแล้วตัวเลขชาวยูเครนที่เข้ามาใช้ชีวิตในแดนหมีขาว รวมถึงพวกที่ลักลอบเข้าเมืองอาจสูงเกินกว่า 3.5 ล้านคนแล้ว
อย่างไรก็ดี วิกฤตการเมืองที่ดำเนินมานานหลายเดือนในยูเครนกำลังผลักดันให้ชาวยูเครนจำนวนมากต้องเดินทางออกนอกประเทศเพิ่มขึ้น และแน่นอนว่าจุดหมายปลายทางหลักของชาวยูเครนพลัดถิ่นเหล่านี้ก็คือรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันเสาร์ (1) ทางการรัสเซียออกมาเปิดเผยว่า ได้รับคำร้องขอลี้ภัยจากชาวยูเครนมากกว่า 143,000 คนภายในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคำขอลี้ภัยส่วนใหญ่ถูกส่งมาจากประชาชนที่อาศัยอยู่ทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครนซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้คนส่วนใหญ่ “พูดภาษารัสเซีย”
ข้อมูลของรัฐบาลยูเครนในปีที่แล้วระบุว่า ในจำนวนประชากรราว 45 ล้านคนของยูเครนนั้น ราว 7.6 ล้านคนเป็นพลเมืองที่มีเชื้อสายรัสเซีย พูดภาษารัสเซีย และมีความผูกพันกับรัสเซีย