เอเอฟพี - ประธานาธิบดีอียิปต์ในวันอังคาร (25) แต่งตั้งอดีตสมาชิกพรรคของอดีตผู้นำฮอสนี มูบารัค ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามหลังการลาออกทั้งคณะของรัฐบาล ไม่กี่เดือนก่อนถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีที่คาดหมายว่าผู้บัญชาการกองทัพจะได้รับเลือกเข้าสู่อำนาจ
นายฮิบราฮิม มาห์ลับ วัย 60 ปี อดีตประธานรัฐวิสาหกิจก่อสร้าง ประกาศต่อสู้กับภัยก่อการร้ายและเรียกนักท่องเที่ยวกลับสู่ประเทศ ขณะที่เขาเริ่มต้นจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ตามหลังการลาออกของนายกรัฐมนตรีฮาเซม อัล-เบบลาวีและรัฐมนตรีทั้งคณะเมื่อวันจันทร์ (24)
รัฐบาลของนายเบบลาวี ได้รับการแต่งตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม หลังจากโมฮาเหม็ด มอร์ซี ประธานาธิบดีพลเรือนคนแรกของประเทศที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเสรีถูกทหารโค่นอำนาจ อย่างไรก็ตามเหล่าคณะรัฐมนตรีได้ตัดสินใจลาออก ตามหลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและจัดการกับความไม่สงบที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ
นายมาห์ลับ ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีการเคหะ สมัยรัฐบาลนายเบบลาวี บอกว่าเขาได้รับมอบภารกิจจากนายอัดลี มานซูร์ ประธานาธิบดีรักษาการให้จัดการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ภายใน 3 หรือ 4 วัน พร้อมให้สัญญาว่าจะทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อปรับปรุงงานบริการแก่ประชาชนชาวอียิปต์และต่อสู้กับก่อการร้าย “เราจะสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับการลงทุน และเรียกนักท่องเที่ยวกลับคืนมา”
นับตั้งแต่นายมอร์ซีถูกโค่นอำนาจโดยกองทัพที่นำโดยจอมพลฟัตตาห์ อัล-ซิซี กลุ่มนักรบอิสลามิสต์ได้ปฏิบัติการก่อความไม่สงบเข่นฆ่านักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอันสำคัญของประเทศ
มีการวางแผนสำหรับปรับคณะรัฐมนตรีบางตำแหน่งมาหลายสัปดาห์แล้ว เพื่อเปิดทางให้จอมพลอัล-ซิซี ได้ลงจากเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหม และรองนายกรัฐมนตรีสำหรับลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ทว่าท้ายที่สุด มันกลับเป็นการลาออกของรัฐบาลทั้งคณะ ซึ่งสร้างความประหลาดใจพอสมควร ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลบางส่วนเอง
อย่างไรก็ตาม จอมพลอัล-ซิซี ก็มีชื่อในคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลนายมาห์ลับ และยังคงนั่งเก้าอี้ตัวเดิม ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงบอกกับเอเอฟพีว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งราวๆ 2 สัปดาห์ เพื่อรอจนกว่ากฎหมายเลือกตั้งผ่านความเห็นชอบแล้ว
รัฐบาลของนายเบบลาวี ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อการจัดการกับประเด็นด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ ท่ามกลางเหตุก่อความไม่สงบและปัญหาคนงานประท้วง ซึ่งอาจกระทบต่อคะแนนเสียงของนายอัล-ซิซี ที่ก้าวมาเป็นบุคคลทางการเมืองผู้เป็นที่นิยมมากที่สุดของประเทศนับตั้งแต่สิ้นสุดการปกครองของนายมอร์ซี
แม้ยังไม่แถลงถึงการลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ช่วยคนสนิทของเขายืนยันว่าจอมพลรายนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะลงชิงชัย ขณะที่เขาจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งในรัฐบาลและกองทัพเสียก่อน ถึงจะสามารถแถลงเปิดตัวลงสมัครอย่างเป็นทางการได้