เอเจนซี - กลุ่มนักรบอิสลามิสต์เมื่อวันอังคาร (18) เตือนนักท่องเที่ยวให้ออกจากอียิปต์ และขีดเส้นตายโจมตีไม่เลือกหน้าใครก็ตามที่ยังอยู่ในประเทศแห่งนี้หลังวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ไม่กี่วันตามหลังเหตุระเบิดรถบัสนำเที่ยวนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ คร่าชีวิต3ศพและบาดเจ็บอีกนับสิบคน
กลุ่มหัวรุนแรง อันซาร์ บัยท์ อัล-มักดิส ที่มีฐานบัญชาการบริเวณคาบสมุทรไซนาย ซึ่งออกมาอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีรถบัสนำเที่ยว คร่าชีวิตนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ไป 2 ศพ และชาวอียิปต์อีกคนเมื่อวันอาทิตย์ (16) ที่ผ่านมา ได้ออกถ้อยแถลงผ่านบัญชีทวิตเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มในวันอังคาร (18) ว่า “เราขอแนะให้นักท่องเที่ยวออกไปซะ เพื่อความปลอดภัยก่อนเส้นตายจะหมดลง” ทวิตเตอร์เขียนเป็นภาษาอังกฤษระบุ
พวกหัวรุนแรงกลุ่มนี้สังหารตำรวจและทหารเสียชีวิตไปหลายร้อยศพแล้วนับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารโค่นประธานาธิบดีมอร์ซี จากกลุ่มภราดรภาพมุสลิมลงจากอำนาจ เมื่อ 7 เดือนก่อน แต่การโจมตีรถบัสนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาแสดงว่ากลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มนี้ได้เปลี่ยนเป้าหมายจากเป้าหมายเข้มแข็งมาเป็นเป้าหมายอ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของประเทศที่ได้รับความเสียหายมามากแล้วจากความวุ่นวายทางการเมือง
ขณะที่ ฮาเซม เอล-เบบลาวี นายกนายกรัฐมนตรีของอียิปต์ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐในวันอังคาร (18) เชื่อว่าทวิตเตอร์ขู่เล่นงานนักท่องเที่ยวของกลุ่มอันซาร์ มีเป้าหมายกัดเซาะกระบวนการโรดแมปทางการเมืองมุ่งสู่การเลือกตั้งที่เปิดตัวโดยกองทัพ ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่จากทหารเข้ายึดอำนาจจากอดีตประธานาธิบดีโมฮาเมด มอร์ซี เมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน ตามหลังวิกฤตนองเลือดครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของอียิปต์
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (17) ทางกระทรวงต่างประเทศของเยอรมนีได้ปรับเปลี่ยนคำเตือนด้านเดินทาง โดยแนะนำพลเมืองที่ประสงค์เดินทางไปอียิปต์ให้อยู่ในความระมัดระวัง โดยเฉพาะการเดินทางไปยังพื้นที่ไนล์เดลตาและอเล็กซานเดรีย
พันธมิตรตะวันตกของอียิปต์ หวังว่าการลุกฮือโค่นอำนาจประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค ในปี 2011 จะนำมาซึ่งเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ ทว่านับตั้งแต่นั้นชาติที่มีพลเรือนกว่า 80 ล้านคนแห่งนี้ก็ถูกห้อมล้อมด้วยเหตุยุ่งเหยิง
การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในรายได้หลักของอียิปต์ คิดเป็นมากกว่าร้อยละ 10 ของจีพีดี แต่มันได้รับผลกระทบมาตั้งแต่การลุกฮือโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค จากนั้นนักท่องเที่ยวก็ลดลงอย่างฮวบฮาบ ตามหลังอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี ผู้บัญชาการกองทัพ โค่นอำนาจของนายมอร์ซี ผู้สืบทอดตำแหน่งของนายมูบารัค