xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งลักษณ์” และ “ยูเอ็น” ประสานเสียง “หยุดความรุนแรง” หลังมีเด็กเสียชีวิตจากระเบิดในที่ชุมนุม – “ยูนิเซฟ” วอนผู้ชุมนุมห้ามนำเด็กเข้าร่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอพี/เอเจนซีส์/ASTVManager - หลังจากเหตุการณ์เกิดเหตุระเบิดหน้าบิ๊กซีราชดำริใกล้กับเวทีการประท้วงของกลุ่มกปปส.เมื่อวันอาทิตย์ (23) และทำให้มีเด็กเสียชีวิต 2 คน และล่าสุดวันนี้ (25) มีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบฝ่ายใช้ปืนและระเบิดยิงถล่มใส่เวทีผู้ชุมนุมที่สวนลุมฯตั้งแต่เวลา 01.00-04.00 น.นับเป็นความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นทุกวันในสถานการณ์วิกฤตทางการเมืองที่ยืดเยื้อร่วมเกือบ 4 เดือนของไทย

เหตุระเบิดล่าสุดใกล้บิ๊กซีราชดำริย่านใจกลางเมืองแหล่งชอปปิ้งของคนเมืองหลวงในเย็นวันอาทิตย์ (23) มีเด็กชายวัย 4 ปี และเด็กหญิง 6 ปีเสียชีวิต รวมไปถึงเด็กชายวัย 9 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสเกิดขึ้นหลังจากเหตุการโจมตีเวที กปปส.จ.ตราด ในคืนวันเสาร์ (22) ที่มีเด็กหญิงวัย 5 ปีเสียชีวิต และล่าสุดในเช้าวันนี้ (25) ที่มีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบฝ่ายใช้ปืนและระเบิดยิงถล่มใส่เวทีผู้ชุมนุมที่สวนลุมฯตั้งแต่เวลา 01.00-04.00น.

จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นรายวัน ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับการประท้วงทางการเมืองของไทยที่ยืดเยื้อมาเกือบ 4 เดือนที่มีตัวเลขผู้เสียชีวิตรวมล่าสุดอย่างน้อย 18 ราย และผู้บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน โดยเป้าหมายของการประท้วงเพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้พ้นจากอำนาจเพื่อเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีรักษาการที่มาจากการแต่งตั้งเพื่อปฏิรูปประเทศไทย แต่ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธที่จะก้าวลงจากอำนาจ

ในวันอาทิตย์ (23) ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ได้รายงานว่ามีเด็กเสียชีวิต 2 ราย รวมถึงผู้หญิงอีก 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดอีก 24 ราย จากระเบิดลย. 40ที่ยิงมาจากปืนอาร์พีจีชนิดเอ็ม 79 ซึ่งเป็นวิถีการยิงมาจากที่สูง และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ายิงมาจากทิศทางใด สำหรับเครื่องยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 นั้น มีรัศมีทำลายล้าง 4-5 ม.และในคืนวันเสาร์ (22) มีเด็กหญิงวัย 5 ปี เสียชีวิต พร้อมทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากได้ถูกคนร้ายไม่ทราบชื่อนั่งในรถกระบะ 2 คันลงมือกราดยิงและปาระเบิดใส่ผู้ชุมนุม

จากการความรุนแรงได้ยกระดับเพิ่มขึ้นรายวันจนเป็นสาเหตุให้เด็กเล็กๆ ต้องตกเป็นเหยื่อเคราะห์ร้ายเสียชีวิตในการกระทำของคนร้ายไม่ทราบฝ่ายที่ทางเจ้าหน้าที่ของไทยยังไม่เคยสามารถตามจับได้ ทั้งฝ่ายสนับสุนรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านต่างประณามซึ่งกันและกัน และอ้างว้าฝ่ายตรงกันข้ามเป็นผู้เริ่มจุดชนวนความรุนแรงให้เกิดขึ้น

สาทิตย์ วงศ์หนองเตย สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นหนึ่งในผู้นำการประท้วงได้กล่าวว่า เหตุโจมตีใกล้กับเวที กปปส.ราชดำริในวันอาทิตย์ (23) นั้นเกิดมาจากการยิงระเบิด นอกจากนี้ในคืนวันศุกร์ (21) ในบริเวณเดียวกันมีผู้ร่วมชุมนุมบาดเจ็บ 6 คนจากแรงระเบิด

และผลจากเหตุการณ์ที่ทำให้เด็กต้องเสียชีวิตลงจากความรุนแรงความขัดแย้งทางการเมืองถึง 2 วันติด ทำให้ยิ่งลักษณ์ต้องออกแถลงการณ์เรียกร้องให้หยุดใช้ความรุนแรงในคืนคืนวันอาทิตย์ (23) ผ่านเฟซบุ๊กทั้งภาษไทยและอังกฤษว่า “ดิฉันขอประณามการใช้ความรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้งที่จังหวัดตราด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณราชประสงค์ เพราะทำให้เด็กเสียชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจและสะเทือนใจมาก ดิฉันขอแสดงความเสียใจต่อผู้ที่บาดเจ็บและต่อญาติมิตรของผู้ที่เสียชีวิต การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการก่อการร้ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อประโยชน์ทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงชีวิตคน รัฐบาลจะไม่ยินยอมและได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการหาผู้กระทำผิดโดยเร็วและไม่มีข้อยกเว้น ดิฉันขอวิงวอนต่อทุกฝ่ายว่าในทางการเมืองเราอาจเห็นต่างได้ และการแสดงออกเพื่อให้เห็นถึงความไม่เห็นด้วยนั้นทำได้หลายวิธี แต่การใช้ความรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตไม่ใช่วิถีของอารยชน ไม่ใช่วิถีของคนไทยที่มีความเอื้ออาทร และเมตตากรุณาต่อเพื่อนร่วมชาติ มากกว่าการคิดเข่นฆ่าประหัตประหารกัน ดิฉันขอให้ทุกฝ่ายหันมาใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้งตามครรลองของประชาธิปไตยจะเป็นการดีที่สุด”

ซึ่งสอดรับกับแถลงการณ์ของบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คนปัจจุบันที่ได้ร้องให้ “ทุกฝ่ายในไทย” หยุดใช้ความรุนแรง เคารพในหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมาย พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์นำผู้ที่ต้องรับผิดชอบจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญรายวันมาลงโทษในที่สุด โดยในแถลงการณ์ของบัน เขาได้เน้นที่ความรุนแรงในไทย ซึ่งเกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองที่ยกระดับเพิ่มมากขึ้นทุกวัน จนกระทั่งทำให้ล่าสุดมีเด็กต้องเสียชีวิตไปอย่างน้อย 3 ราย

และทางด้านยูนิเซฟได้ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (24) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทั้งรัฐบาล ผู้นำการประท้วงทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต้าน รวมถึงผู้ปกครองร่วมกันปกป้องสิทธิเด็กโดยการทำให้ “ที่ชุมนุมทางการเมืองในไทยเป็นเขตปลอดเด็ก” พร้อมทั้งวอนให้ผู้ปกรองงดนำบุตรหลานเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองเพื่อความปลอดภัยในสวัสดิภาพของเด็ก

“ยูนิเซฟขอประณามความรุนแรงทุกประเภทที่ทำให้เด็กเล็กผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บในความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเด็กนี้ทางยูนิเซฟเห็นความจำเป็นที่ต้องเรียกร้องให้นำเด็กออกจากสถานที่ ซึ่งอาจทำให้เด็กได้รับอันตรายเพื่อประกันสวัสดิภาพและความปลอดภัยของตัวเด็กเอง นอกจากนี้ทางยูนิเซฟต้องการให้ทั้งรัฐบาลและผู้นำขั้วการเมืองในการประท้วงทั้ง 2 ฝ่าย รวมไปถึงผู้ปกครองร่วมมือในการปกป้องชีวิตของเด็กโดยการไม่อนุญาตให้เด็กสามารถอยู่ในเขตชุมนุมทางการเมืองทุกแห่งภายในประเทศ” อ้างจากแถลงการณ์บิจาญา ราชบันดาริ (Bijaya Rajbhandari) ผู้แทนองค์การยูนิเซฟประจำประเทศไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น