เอเจนซีส์ – หนุ่มอินเดียผู้สร้างตำนานรักระหว่าง “สามล้อถีบ” กับหญิงสาวจากแดนไกลเมื่อปีที่แล้ว ลงมือสังหารภรรยาชาวอเมริกันและเผาตัวเองตายตาม หลังชีวิตรักไม่ราบรื่นอย่างที่หวัง ตำรวจอินเดียเผยวันนี้ (22)
บันตี ชาร์มา วัย 32 ปี ลงมือสังหารและโยนศพ เอริน วิลลิงเกอร์ ภรรยาวัย 35 ปี ซึ่งเป็นชาวเมืองเชสเตอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ทิ้งไว้ริมถนนสายหนึ่งในเมืองอักรา หลังจากทั้งคู่มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเมื่อวันพฤหัสบดี (20)
เมื่อฆ่าภรรยาตายแล้ว ชามาร์ ก็กลับมาบ้านและเผาตัวเองตายตาม
ชาร์มา และ วิลลิงเกอร์ พบกันครั้งแรกเมื่อฝ่ายหญิงเดินทางมาเที่ยว “ทัชมาฮาล” พร้อมกับเพื่อนเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ทั้งคู่ต่างติดตาต้องใจกันแต่แรก และลงเอยด้วยการแต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยา ทว่าไม่นานชีวิตคู่ก็เริ่มระหองระแหง เพราะ ชาร์มา สงสัยว่าภรรยาจะคบชู้
สำนักข่าวอินเดียนเอ็กซ์เพรสรายงานว่า ชาร์มา ไม่พอใจที่ภรรยา “สูบบุหรี่จัด ชอบคุยกับผู้ชายอื่น และไม่รู้จักอยู่เหย้าเฝ้าเรือน”
สถานทูตสหรัฐฯในกรุงนิวเดลีปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในคดีนี้ แต่ ชาลาภ มาธูร์ นายตำรวจระดับสูงคนหนึ่งอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สถานทูตว่า ครอบครัวของ วิลลิงเกอร์ ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น “คิราน ชาร์มา” ได้รับทราบการตายของเธอแล้ว
“เราจะเก็บร่างของเหยื่อเอาไว้ก่อน จนกว่าจะมีคำสั่งเพิ่มเติมจากทางสถานทูต” มาธูร์ ระบุ
จุดจบของสามีภรรยาคู่นี้กลายเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์อินเดียหลายฉบับ ซึ่งบรรยายความรักของทั้งคู่ไว้อย่างโรแมนติกราวกับภาพยนตร์บอลลีวูด
เมื่อทริปท่องเที่ยวสิ้นสุดลง เพื่อนๆ ของ วิลลิงเกอร์ ต่างเดินทางกลับสหรัฐฯ ส่วนเธอตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ในอินเดียและเข้าพิธีแต่งงานกับ ชาร์มา เมื่อเดือนกันยายน ที่ดาดฟ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งสามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้อย่างชัดเจน
หนังสือพิมพ์ ไทม์สออฟอินเดีย ได้ตีพิมพ์ภาพถ่ายขาวดำของทั้งคู่ ขณะที่บางสื่อก็ได้เผยแพร่รูปถ่ายของ วิลลิงเกอร์ ขณะสวมชุดเจ้าสาวแบบอินเดีย