เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ สั่งการในวันอังคาร (18 ก.ย.) ให้ดำเนินการสอบสวนอย่างเต็มที่ ในกรณีหลังคาหอประชุมของรีสอร์ตแห่งหนึ่งถล่มซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมปฐมนิเทศ ขณะเจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมกำลังค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารตลอดคืนวันจันทร์ (17) ท่ามกลางหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก
จุง ยุนฮัน ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการภัยพิบัติ กระทรวงความมั่นคงและบริหารกิจการสาธารณะ แถลงเมื่อวันอังคารว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงค่ำวันจันทร์ ขณะที่นักศึกษามหาวิทยาลัยปูซานประมาณ 560 คน ร่วมงานปฐมนิเทศซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันที่ มานัว โอเชียน รีสอร์ต แล้วหลังคาหอประชุมถล่มลงมา เป็นเหตุให้นักศึกษา 9 คน และบุคคลอื่นอีก 1 คนเสียชีวิต นอกจากนั้นมี 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส และอีก 103 คนบาดเจ็บเล็กน้อย
เบียน คีชาน หัวหน้าแผนกนักศึกษาโครงการแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยปูซาน เสริมว่า ขณะเกิดเหตุ นักศึกษาเพิ่งเสร็จสิ้นการรับประทานอาหารเย็นและกำลังร่วมชมคอนเสิร์ต โดยมีบางคนสามารถหนีออกมาได้หลังจากสังเกตเห็นรอยร้าวบนเพดาน ครั้นแล้วหลังคาก็ถล่มลงมาด้านหน้าของเวที ทำให้เกิดความโกลาหลและทุกคนพยายามวิ่งไปที่ทางออก
สภาพอากาศที่เลวร้ายเป็นอุปสรรคขัดขวางหน่วยกู้ภัยจำนวนกว่า 1,400 คนที่พยายามเข้าถึงสถานที่เกิดเหตุที่ตั้งอยู่นอกเมืองคยองจู ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ดี จากการระดมกำลังค้นหาตลอดคืน ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตขึ้นมาได้จำนวนมาก
ประธานาธิบดีพัค สั่งให้สอบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างรอบด้าน รวมทั้งให้ตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารต่างๆ ที่อยู่ใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งมีหิมะตกหนักในขณะนี้
ลี วุงเยล ประธานกรรมการโคลอน กรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจใหญ่อันดับที่ 30 ของเกาหลีใต้และเป็นเจ้าของมานัว โอเชียน รีสอร์ต เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ และคำนับขอขมาต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้ พร้อมออกคำแถลงแสดงความเสียใจ และให้สัญญาว่าจะจ่ายค่าชดเชยต่อผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่
ขณะที่ ลี แจซู โฆษกของโคลอน กรุ๊ป แถลงว่า หอประชุมดังกล่าวไม่ได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยจากหน่วยงานภายนอกนับแต่สร้างเสร็จในปี 2009 เนื่องจากไม่ได้เป็นอาคารที่อยู่ในข่ายที่ต้องได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกตามกฎหมายปัจจุบัน อย่างไรก็ดี โคลอนได้ทำการตรวจสอบความปลอดภัยภายในเป็นประจำทุกเดือน
โฆษกผู้นี้เสริมว่า หอประชุมสร้างโดยบริษัทก่อสร้างซองวอน ซึ่งเริ่มการก่อสร้างในเดือนมิถุนายน 2009 แล้วเสร็จภายในเวลาไม่ถึง 3 เดือน และมานัว โอเชียน รีสอร์ตเปิดใช้อาคารแห่งนั้นในเดือนกันยายนปีเดียวกัน ซึ่งการที่รัฐบาลให้อนุญาตใช้อาคารหลังนั้นเท่ากับเป็นการรับรองความปลอดภัยของอาคาร
ทั้งนี้ อาคารดังกล่าวใช้ระบบโครงสร้างสำเร็จรูป อันประกอบด้วยโครงและผนังที่มีความทนทานแบบเดียวกับที่ใช้ในคลังสินค้าและโรงเก็บเครื่องบิน
ทางด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสันนิษฐานว่า หิมะที่ตกทับถมบนหลังคาอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้โครงสร้างร้าวและถล่มลงมา ขณะที่ตำรวจระบุว่า จะเริ่มทำการสอบสวนทันที โดยมุ่งประเด็นว่า มีการกวาดหิมะออกจากหลังคาหอประชุมหรือไม่ และการก่อสร้างใช้โครงสร้างที่สอดคล้องตามมาตรฐานความปลอดภัยหรือเปล่า
โช คุนฮี เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเกาหลี เผยว่า เดือนนี้ตัวเมืองคยองจูมีหิมะปกคลุมถึง 34.8 เซนติเมตร นับเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่มีการบันทึกไว้ในเดือนสิงหาคม 2010 และแม้ไม่มีอุปกรณ์ตรวจวัดในบริเวณภูเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของรีสอร์ตที่เกิดเหตุ แต่มีแนวโน้มว่า หิมะตกในบริเวณดังกล่าวหนักกว่าในตัวเมือง