รอยเตอร์ – ตำรวจสหรัฐฯ จับกุมศิลปินชาวอเมริกันผู้คว้าแจกันโบราณมูลค่า 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐที่เป็นผลงานของ ไอ้ เว่ยเว่ย ศิลปินและนักเคลื่อนไหวชาวจีนมาขว้างลงพื้น เหตุเพราะไม่พอใจพิพิธภัณฑ์เปิดใหม่ในเมืองไมอามีที่จัดแสดงเฉพาะงานศิลปะระดับนานาชาติ แต่ไม่ให้ความสำคัญต่อศิลปินท้องถิ่น
แม็กซิโม คามิเนโร วัย 51 ปี ซึ่งเป็นชาวโดมินิกันโดยกำเนิด ถูกตำรวจจับกุมและตั้งข้อหาวางแผนก่ออาชญากรรม เมื่อวานนี้ (17) ภายหลังจากที่เขาเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเปเรซในเมืองไมอามี แล้วหยิบแจกันโบราณชุบสี 1 ใน 16 ใบมาขว้างลงกับพื้น
เขาให้การต่อตำรวจว่า ที่ทำเช่นนี้เพราะต้องการประท้วงพิพิธภัณฑ์ “ซึ่งจัดแสดงเฉพาะผลงานของศิลปินนานาชาติ”
ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ซึ่งโทรศัพท์ไปขอสัมภาษณ์คามิเนโร ได้ข้อมูลว่า เขาเป็นจิตกรซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองไมอามี และเตรียมจะเปิดแถลงข่าวในวันนี้ (18) เพื่ออธิบายสาเหตุที่ต้องทุบทำลายงานศิลปะราคาแพง แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดมากกว่านี้
คามิเนโร ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไมอามี นิว ไทม์ส ว่าเขาไม่ทราบว่าแจกันเขียนสีเหล่านั้นมีมูลค่ามากแค่ไหน และคิดว่ามันเป็นเพียง “หม้อดินธรรมดาๆ ที่หาซื้อได้ตาม Home Depot ทั่วไป” แต่ยอมรับว่าตนเองชื่นชอบผลงานของ ไอ้ เว่ยเว่ย
แจกัน 16 ใบซึ่ง ไอ้ เว่ยเว่ย ได้นำไปชุบสี มีอายุประมาณ 2,000 ปีตั้งแต่ยุคราชวงศ์ฮั่น
ศิลปินชาวจีนผู้นี้มักใช้แจกันโบราณหรือของเก่ามาผลิตเป็นผลงานศิลปะ ซึ่งทำให้เขาถูกนักวิจารณ์บางคนตำหนิว่าทำลายคุณค่าดั้งเดิมของโบราณวัตถุเหล่านั้น
แจกันทั้ง 16 ใบถูกนำมาจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์เมืองไมอามี โดยมีฉากหลังเป็นภาพถ่าย 3 ภาพของ ไอ้ เว่ยเว่ย ขณะทุ่มแจกันยุคราชวงศ์ฮั่นใบหนึ่งลงกับพื้น
ไอ้ เว่ยเว่ย ยังเคยเพนต์โลโก้เครื่องดื่ม “โคคาโคลา” ลงบนแจกันโบราณมาแล้วหลายใบ
คามิเนโรบอกกับหนังสือพิมพ์นิวไทม์ส ว่าเขาได้แรงบันดาลใจจากภาพถ่ายของศิลปินชาวจีนที่ทุ่มแจกันลงพื้น
“ผมไปที่พิพิธภัณฑ์ และเห็นภาพถ่าย ไอ้ เว่ยเว่ย ทุ่มแจกันจีนโบราณลงพื้นจนแตก ผมมองว่านั่นคือการเชื้อเชิญให้พวกเราร่วมกันแสดงออกเชิงประท้วงเหมือนกับเขา”
ไอ้ เป็นที่รู้จักทั่วโลกในฐานะศิลปินผู้อาจหาญวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลจีน ทั้งในแง่ประชาธิปไตย, เสรีภาพด้านการแสดงออก และสิทธิมนุษยชน
ผลงานชุด “แจกันสี” เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการศิลปะ “According to What” ของ ไอ้ เว่ยเว่ย ซึ่งเปิดให้เข้าชมพร้อมการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมื่อปลายปี 2013 ที่ผ่านมา