รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการโคโซโว ประกาศบังคับใช้มาตรการปันส่วน “น้ำ” ในกรุงปริสตินา เมืองหลวงของประเทศ รวมถึงพื้นที่โดยรอบตั้งแต่วันจันทร์ (10 ก.พ.) เป็นต้นไป หลังต้องเผชิญกับภาวะภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดในรอบอย่างน้อย 30 ปี
นายกรัฐมนตรีฮาชิม ธาซี แห่งโคโซโว ซึ่งเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่เมื่อปี 2008 ประกาศว่า นับตั้งแต่วันจันทร์ (10) ที่ผ่านมาเป็นต้นไป พื้นที่ต่างๆ ในกรุงปริสตินา เมืองหลวงของประเทศที่เป็นบ้านของประชากรมากกว่า 465,000 คน รวมถึงเมืองที่อยู่โดยรอบจะต้องเข้าสู่มาตรการปันส่วนน้ำกินน้ำใช้ ซึ่งมาตรการนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งที่เลวร้ายที่สุดในรอบมากกว่า 30 ปีจะคลี่คลาย โดยมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้พื้นที่ต่างๆ จะถูกสลับการจ่ายน้ำแตกต่างกันออกไปตามช่วงเวลา
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลโคโซโวมีขึ้น หลังจากที่บรรดาอ่างเก็บน้ำต่างๆ ในประเทศ มีปริมาณน้ำคงเหลือลดลงอย่างน่าตกใจจากผลของหิมะและฝนที่ตกลงมาน้อยกว่าปกติ จนส่งผลกระทบต่อการสำรองน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร
ด้านอาร์เยตา เมคู โฆษกหญิงของบริษัทจัดการน้ำที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลโคโซโว ออกมาแถลงที่กรุงปริสตินา โดยระบุว่าภายใต้มาตรการดังกล่าวบ้านเรือนของประชาชนเกือบทั้งหมดในกรุงปริสตินาและเมืองโดยรอบจะได้รับการจ่ายน้ำกินน้ำใช้เหลือเพียงวันละ 10 ชั่วโมงเท่านั้น จากแต่เดิมที่จะได้รับการจ่ายน้ำ 14 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่ทางบริษัทจะงดการจ่ายน้ำอย่างสิ้นเชิงในเวลากลางคืน
โฆษกหญิงรายดังกล่าวยังเผยด้วยว่า โคโซโวกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยแล้งและวิกฤตขาดแคลนน้ำที่รุนแรงนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1983 เป็นต้นมา ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนราว 1 ใน 4 ของประเทศได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ โคโซโวซึ่งประกาศเอกราชแยกตัวจากเซอร์เบียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2008 และเพิ่งได้รับเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของธนาคารโลก รวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยังติดอันดับดินแดนที่ได้ชื่อว่ายากจนที่สุดของยุโรป และยังถูกรุมเร้าด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจนานัปการ ตลอดจนความไม่พร้อมของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในประเทศ ขณะที่อัตราการว่างงานล่าสุดยังคงพุ่งสูงถึงระดับ 40 เปอร์เซ็นต์
