เอเจนซีส์ - คาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดอีกรอบ หลังโสมแดงยกเลิกไม่ยอมอนุญาตให้ผู้แทนสหรัฐฯ เดินทางไปเยี่ยมชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีที่ถูกคุมขัง พร้อมกันนั้นก็ประณามการประกาศกำหนดการซ้อมรบระหว่างวอชิงตันกับโซล หลังจากก่อนหน้านี้ขู่ว่า ถ้าไม่ยกเลิกการฝึกดังกล่าว แดนอารีดังจะต้องพบ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แบบที่นึกภาพไม่ออก”
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.พ.) ว่า ผิดหวังมากที่เกาหลีเหนือยกเลิกคำเชิญโรเบิร์ต คิง ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ด้านปัญหาสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ เป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งที่แล้ว โสมแดงก็กลับลำในนาทีสุดท้ายเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
คิงนั้นหวังว่า จะสามารถเจรจาให้เปียงยางปล่อยตัว เคนเนธ แบ ผู้จัดทัวร์ชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี ที่ถูกจับกุมไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 และถูกตัดสินจำคุกให้ใช้แรงงานหนัก 15 ปีในข้อหาพยายามล้มล้างรัฐบาลเกาหลีเหนือ
แบ วัย 45 ปี รับโทษมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2013 และถูกนำส่งโรงพยาบาลในเดือนสิงหาคมเนื่องจากปัญหาตับและไต แต่ถูกส่งกลับคุกแรงงานเมื่อเดือนที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลของครอบครัวของเขาและเจ้าหน้าที่อเมริกัน
คำแถลงของกระทรวงต่างประเทศยังเรียกร้องให้เกาหลีเหนือนิรโทษกรรมเป็นกรณีพิเศษ และปล่อยตัว แบ ทันทีเพื่อให้เขาได้กลับไปพบครอบครัวและรักษาอาการป่วย
การยกเลิกคำเชิญคิงคราวนี้ มีขึ้นก่อนการซ้อมรบระหว่างอเมริกากับเกาหลีใต้ในวันที่ 24 เดือนนี้ถึง 18 เมษายน ซึ่งเปียงยางเรียกร้องอย่างแข็งกร้าวให้โซลยกเลิก
กองบัญชาการกองกำลังร่วม (ซีเอฟซี) ของอเมริกาและเกาหลีใต้เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า การซ้อมรบที่จะมีขึ้น 2 รอบจะมีทหารอเมริกันเข้าร่วม 12,700 คน และเสริมว่า ได้แจ้งกำหนดเวลากับเกาหลีเหนือแล้ว รวมทั้งยืนยันว่าการซ้อมรบมีความโปร่งใส จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และมีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกซ้อมด้านการทหารเท่านั้น ไม่มีเจตนายั่วยุแต่อย่างใด
กระนั้น เปียงยางซึ่งมองว่า การซ้อมรบเป็นการฝึกซ้อมเพื่อรุกรานตน ได้เตือนโซลตั้งแต่ก่อนหน้านี้ว่า หากไม่ยกเลิกจะต้องเผชิญ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างที่นึกภาพไม่ออก”
เมื่อปีที่แล้ว การซ้อมรบประจำปีของสหรัฐฯกับเกาหลีใต้ ได้เกิดความตึงเครียดทางทหารอย่างรุนแรงและยาวนานผิดปกติ โดยเปียงยางขู่จะเปิดการโจมตีก่อนด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่อเมริกาส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีเทคโนโลยีหลบหลีกเรดาร์ (สเตลธ์) บินเหนือคาบสมุทรเกาหลี
ทางครอบครัวของแบ แสดงความกังวลมาตลอดว่า เขาจะถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองอย่างที่เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เคยดักคอเปียงยางเมื่อปีที่แล้วไม่ให้กลับคำมั่น และย้ำว่า ไม่ควรนำแบมาเกี่ยวข้องกับการซ้อมรบแต่อย่าง
นอกจากนั้น การซ้อมรบในปีนี้ ยังเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกับช่วงที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ตกลงให้งานพบญาติที่ต้องพรากจากกันสืบเนื่องจากสงครามเกาหลีปี 1950-1953 ที่กำหนดไว้ในวันที่ 20-25 เดือนนี้ ณ รีสอร์ทเขากุมกัง ในเกาหลีเหนือ
โซลและเปียงยางตกลงเรื่องนี้กันได้เมื่อวันพุธที่แล้ว (5) แต่หลังจากนั้นหนึ่งวัน เกาหลีเหนือกลับขู่ว่าจะล้มเลิก โดยอ้างรายงานของสื่อเกาหลีใต้เกี่ยวกับปฏิบัติการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิดอเมริกา
ประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย ของเกาหลีใต้เรียกร้องให้เปียงยางเคารพข้อตกลง เพื่อให้ครอบครัวที่พลัดพรากจากกัน ซึ่งหลายคนอายุมากแล้วและสุขภาพร่วงโรยได้พบหน้าค่าตากันอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เดือนกันยายนปีที่แล้ว เกาหลีเหนือเคยยกเลิกงานรวมญาติเช่นนี้ในนาทีสุดท้ายมาแล้วครั้งหนึ่ง และหลายฝ่ายคาดว่า เกาหลีเหนือจะกระทำเหมือนเดิมในครั้งนี้โดยอ้างการซ้อมรบของโซล-วอชิงตัน
โซลนั้นเตือนว่า เกาหลีเหนืออาจมีแผนยั่วยุระหว่างการซ้อมรบที่กำลังจะมีขึ้น โดยภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดบ่งชี้ว่า เปียงยางเกือบจะขยายฐานยิงดาวเทียมแห่งหลักของตนเสร็จสิ้นแล้ว ทำให้สามารถยิงจรวดพิสัยไกลอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า
เมื่อเดือนธันวาคม 2012 เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการยิงจรวดนำเอาดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร ทว่า นานาชาติประณามว่า แท้จริงแล้วเป็นการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล ส่งผลให้สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพิ่มมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือ
ในวันจันทร์ คิม กวานจิน รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้แถลงต่อคณะกรรมาธิการของรัฐสภาว่า สถานที่ทดสอบนิวเคลียร์แห่งหลักของเกาหลีเหนือพร้อมดำเนินการเต็มรูปแบบแล้ว และแม้ยังไม่มีสัญญาณว่า จะมีการทดสอบนิวเคลียร์เร็วๆ นี้ แต่โซลกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการยั่วยุจากโสมแดง