เอเจนซีส์ - ในวันเสาร์ (8) เจ้าหญิงคริสตินา พระราชธิดาในสมเด็จพระราชาธิบดีฮวน คาร์ลอส แห่งสเปนได้ทรงยื่นหลักฐานให้แก่ศาลในคดีฉ้อโกง และฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับพระสวามี อินากี อูร์ดันการิน ดยุคแห่งปัลมา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สมาชิกราชวงศ์สเปนต้องขึ้นศาล
เจ้าหญิงคริสตินา พระชนมายุ 48 พรรษา ทรงปรากฏพระองค์ต่อหน้าผู้พิพากษาโฮเซ คาสโตร ศาลสเปนในการไต่สวนลับบนเกาะมายอร์กา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สมาชิกราชวงศ์ระดับสูงสเปนต้องขึ้นสู่ศาล และทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงอนาคตของสถาบันกษัตริย์ในสเปน
โดยเจ้าหญิงคริสตินา ทรงถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในธุรกิจของพระสวามี อินากี อูร์ดันการิน ดยุคแห่งปัลมา ที่ได้ถูกตำรวจสเปนสอบสวนด้วย แต่กระนั้น ทั้งเจ้าหญิงคริสตินา และสวามียังไม่ได้รับการตั้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ และคนทั้งคู่ต่างให้การปฏิเสธต่อข้อกล่าวหาคดีฉ้อโกง และฟอกเงินนี้
โดยผู้พิพากษาคาสโตร อนุญาตให้ มานอส ลิมเปียส กลุ่มสหภาพแรงงานขวาจัด ได้ยื่นฟ้องร้องคดีต่อเจ้าหญิงคริสตินา ฐานเลี่ยงภาษี และฟอกเงิน หลังจากเจ้าหน้าที่สรรพากรไม่ยอมยื่นฟ้องดำเนินคดีใดๆ ต่อเจ้าหญิง ส่วนอัยการรัฐก็บอกว่า ไม่มีประเด็นที่จะต้องให้การแก้ฟ้อง และภายหลังจากการไต่สวนเมื่อวานนี้ (8) ผู้พิพากษาคาสโตร มีสิทธิที่จะดำเนินการสั่งฟ้องเพื่อดำเนินคดีต่อ หรือยกฟ้องคดีนี้ก็ได้ หรืออาจจะให้โอกาสเจ้าหญิงคริสตินา ทรงยอมรับความผิดเพื่อแลกเปลี่ยนกับการลดหย่อนโทษ รอยเตอร์รายงาน
ซึ่งผู้พิพากษาโฮเซ คาสโตร ได้ใช้เวลานานกว่า 2 ปี ในการสืบสวนข้อกล่าวหาดยุคแห่งปัลมา และอดีตผู้ร่วมทุนทางธุรกิจได้ยักยอกเงินรัฐ จำนวน 8.18 ล้านดอลลาร์ ผ่านมูลนิธิการกุศลสถาบัน Noos ที่อูร์ดันการิน เป็นประธานสถาบัน และเจ้าหญิงคริสตินา ทรงเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหาร และในขณะเดียวกัน พระองค์ได้ร่วมทุนกับพระสวามี ดยุคแห่งปัลมา เปิดบริษัท Aizoon ซึ่งทางการสเปนสงสัยว่าบริษัทแห่งนี้จะถูกใช้บังหน้าเพื่อเป็นแหล่งฟอกเงินที่ถูกยักยอก
ทั้งนี้ ผู้พิพากษาในมายอร์กาได้เคยออกหมายเรียกตัวเจ้าหญิงคริสตินา ฐานต้องสงสัยคอร์รัปชันมาก่อนหนหนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อหน้าร้อนปี 2013 แต่ต่อมา การตัดสินใจก็ถูกลบล้างไป ตามหลังมีการยื่นอุทธรณ์มาจากอัยการ ขณะที่ในคดีใหม่ ผู้พิพากษาคาสโตรเผยว่า อยากฟังคำชี้แจงจากเจ้าหญิงเองอย่างยุติธรรมตามข้อบ่งชี้ว่ามีการทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่แค่จากข่าวลือที่จินตนาการเอาเอง
เมื่อวานนี้ (8) มีการวางกำลังตำรวจมากถึงถึง 200 นาย ในเมืองปัลมา เด มายอร์กา (Palma de Mallorca) เพื่อรับมือกับกลุ่มผู้ประท้วงใกล้กับศาล และถนนในบริเวณนั้นได้ถูกปิดลง ซึ่งการที่เจ้าหญิงซึ่งเป็นพระราชธิดาพระองค์เล็กสุดของกษัตริย์ฮวน คาร์ลอส และการที่เจ้าหญิงคริสตินา ทรงต้องขึ้นสู่ศาลนี้กระทบต่อความนิยมในสถาบันกษัตริย์ที่ในผลสำรวจล่าสุดในสเปน ได้แสดงว่า มีชาวสเปนถึง 62% ที่ต้องการให้กษัตริย์ฮวน คาลอส ประกาศสละพระราชสมบัติ และความนิยมในพระราชวงศสเปนนั้นได้ลดลงต่ำกว่า 50%