xs
xsm
sm
md
lg

“สหรัฐฯ” หยุดใช้ “โดรน” โจมตีในปากีสถานตั้งแต่คริสต์มาสล่าสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ – รัฐบาลสหรัฐฯได้ตกลงตามคำขอของรัฐบาลปากีสถานในการหยุดปฎิบัติการโดรนในแถบวาซิริสถานเหนือ ยกเว้นในปฎิบัติการโจมตีผู้นำของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ในขณะที่รัฐสภาปากีสถานพยายามหาช่องทางเจรจาสันติภาพกับกลุ่มปากีสถาน-ตอลิบาน

มีรายงานว่าไม่ปรากฏปฎิบัติการโจมตีทางอากาศของโดรนในปากีสถานอย่างไม่เป็นทางการเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2013 และในตลอดทั้งเดือนมกราคม ซึ่งถือเป็นรอบ 2ปีที่ปราศจากการใช้โดรนโจมตีทางอากาศ อ้างจาก Bureau of Investigative journalism ที่คอยติดตามการรายงานข่าวของสื่อเกี่ยวกับปฎิบัติการโดรนของสหรัฐฯ

ซึ่งปฎิบัติการโจมตีทางอากาศโดรนในปากีสถานได้หยุดลงหลังจากที่ หน่วยงาน CIA ของสหรัฐฯได้ใช้โดรนสังหารฮากิมุลเลาะห์ เมห์ซุด ผู้นำคนใหม่ของกลุ่มปากีสถาน-ตอลีบานต่อจากไบตุลเลาะห์ เมห์ซุด ฮากิมุลเลาะห์ เมห์ซุด หลังจากที่การเริ่มต้นการเจรจาสันติภาพเพิ่งจะเริ่มขึ้น ซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีปากีสถานนาวาซ ชารีฟต่อกรุงวอชิงตันเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯเปิดเผยเมื่อวานนี้(5)ว่า ”การจำกัดการโจมตีกลุ่มผู้นำก่อการร้ายตอลิบานในปากีสถานไม่กระทบต่อการสังหารกลุ่มแกนนำอัลกออิดะห์แต่อย่างใด” และเสริมต่อว่า “ยังคงมีไฟเขียวเปิดช่องให้โจมตีกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ได้”

แต่กระนั้นเป้าหมายที่แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯอ้างในขณะนี้ดูเหมือนมีจำนวนน้อยลงเป็นอันมาก ด้วยเหตุที่แกนนำกลุ่มอัลกออิดะห์ในวาซิริสถานเหนือนั้นเหลือไม่มาก หลังจากสหรัฐฯใช้ปฎิบัติการโดรนกวาดล้างในแถบนี้ร่วม 20 ปี ประกอบกับปฎิบัติการทหารจากกลุ่มอื่น ที่รวมถึงหน่วยซีลของนาวิกโยธินสหรัฐฯที่ได้เข้าสังหารอุซามะห์ บินลาดิน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2011

โดยหน่วยงาน CIA ไม่ได้ออกปฎิบัติการโดรนตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม ในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระยะการหยุดปฎิบัติการที่นานนับตั้งแต่การหยุดชั่วคราวเป็นเวลา 6 สัปดาห์ในเดือนพฤศจิกายน 2011หลังจากที่ทหารสหรัฐฯภายใต้การนำของกองกำลังนาโตได้ผิดพลาดสังหารทหารปากีสถานถึง 24 นายในบริเวณพรมแดนที่ติดกับอัฟกานิสถาน ซึ่งการโจมตีครั้งนั้นเป็นผลให้ความสัมพันธ์การทูตกับวอชิงตันสั่นคลอนหนัก ซึ่งสหรัฐฯได้เริ่มข้ามพรมแดนเพื่อไปสังหารบินลาดิน

การจำกัดปฎิบัติการทหารโดยอากาศยานไร้คนขับ “โดรน” นี้ได้รับรายงานเป็นครั้งแรกในวันอังคาร(4)จากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ อย่างไรก็ตามการหยุดปฎิบัติการโจมตีชั่วคราวนี้จะไม่มีผลกระทบต่อการบินลาดตระเวนตามปกติแต่อย่างใด

และหน่วยงาน CIA ปฎิเสธที่จะให้ออกความเห็นเรื่องนี้เมื่อวานนี้(5) แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลของประธานาธิบดี บารัค โอบา มาได้ให้ความเห็นว่า “สหรัฐฯยังคงไม่หยุดการไล่ล่าผู้ก่อการร้ายในสงครามอัฟกานิสถาน และที่อยู่นอกเขตปฎิบัติการก่อการร้าย ซึ่งนี่ยังคงเป็นนโยบายสหรัฐฯ”

ปัจจัยภายนอกอาจจะจำกัดโอกาสของสหรัฐฯในการใช้ปฎิบัติการโดรนในอนาคตในกรณีใดก็ได้


ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน ฮามิด คาไซ ปฎิเสธที่จะลงนามสันติภาพต่ออายุการคงอยู่ของกองกำลังสหรัฐฯในอัฟกานิสถานหลังจาก 2014 ยกเว้นเสียแต่ว่า คาไซหรือประธานาธิบดีคนใหม่ของอัฟกานิสถานที่จะได้รับเลือกตั้งในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้จะเป็นผู้ลงนาม มิเช่นแล้ว กองกำลังสหรัฐฯจะต้องถอนตัวออกจากอัฟกานิสถาน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ซึ่งควบคุมปฎิบัติการโดรนในอัฟกานิสถานด้วย

ซึ่งหากฐานปฎิบัติการพวกนั้นต้องถูกปิดลง สหรัฐคงต้องเลือกวิธีที่จะควบคุมโดรนให้บินในปากีสถานจากฐานที่ตั้งอยู่ระยะไกล หรือมาจากเรือรบแทน ซึ่งจะทำให้การใช้โดรนโจมตีเป้าหมายนั้นยากขึ้นมาก แต่ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ แหล่งข่าวสหรัฐฯเผย

กลุ่มปากีสถาน-ตอลิบานนั้นถูกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯจัดให้เป็นกลุ่มก่อการร้าย ที่ถึงแม้กลุ่มนี้จะมุ่งโจมตีในประเทศปากีสถานเป็นหลัก แต่กระนั้นทางกลุ่มยังสร้างความเสียหายถึงชีวิตให้กับกองกำลังสหรัฐฯที่ตั้งอยู่ในอัฟกานิสถานที่มีพรมแดนติดปากีสถาน อย่างไรก็ตามกลุ่มนี้ไม่มีความเกี่ยวพันโดยตรงกับกลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถาน

ฮาคิมุลลาห์ เมห์ซูด ที่ถูกสังหารเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีระเบิดฆ่าตัวตายแหล่งบัญชาการลับของ CIA ที่ Khowst ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน ในเดือนธันวาคม 2009 ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ CIA เสียชีวิตในเหตุระเบิดฆ่าตัวตายครั้งนั้น

นอกจากนี้กลุ่มก่อการร้ายของเมห์ซูดยังประกาศความรับผิดชอบในเหตุคาร์บอมบ์ที่ล้มเหลวกลางไทม์สแควร์ นิวยอร์ ในเดือนพฤษภาคม 2010 ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯประกาศให้ค่าหัวล่าเมห์ซูดถึง 5 ล้านดอลลาร์

แต่กระนั้นกลุ่มก่อการร้ายปากีสถาน-ตอลิบานยังไม่ถือว่าเป็นกลุ่มอันตรายต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯเหมือนกับกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ที่มีเป้าหมายโจมตีสหรัฐฯ

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ชารีฟได้ประกาศว่า การเจรจาสันติภาพกับกลุ่มตอลิบานที่หยุดไปหลังจากการเสียชีวิตของเมห์ซูดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ปีที่ผ่านมานั้น ในขณะนี้ได้กลับเข้าที่เข้าทางแล้ว ถึงแม้การเปิดเจรจาอย่างเป็นทางการจะยังไม่เริ่มขึ้น

ซึ่งถึงแม้โอบามาจะสัญญาที่จะให้โครงการปฎิบัติการโดรนมีความโปร่งใสมากขึ้น แต่น้อยมากที่รัฐบาลสหรัฐฯจะเปิดเผยข้อมูลของโครงการนี้ให้สาธารณชนได้รับรู้ รวมไปถึงรายละเอียดยืนยันที่ทางกองทัพสหรัฐฯ หรือ หน่วยงานCIAใช้จรวดมิสไซล์โจมตี

ในวันอังคาร(4)ที่ผ่านมา อดัม ชิฟฟ์ สส.สหรัฐฯพรรคเดโมแครตจากรัฐแคลิฟอร์เนียได้สอบถามผู้อำนวยการหน่วยงานCIA จอห์น เบรนแเนน ในการเข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯว่า เหตุใดสหรัฐฯจึงไม่สามารถเปิดเผยรายงานประจำปีที่ให้รายละเอียดตัวเลขจำนวนผู้ก่อการร้ายและพลเรือนที่เสียชีวิตจากปฎิบัติการโจมตีของสหรัฐฯได้

แต่เบรนแนนไม่ได้ตอบคำถามข้อนี้ โดยเขาได้เลี่ยงตอบไปว่า “ผมคิดว่าคำแนะนำนี้คงต้องผ่านไปที่รัฐบาลสหรัฐฯให้เป็นผู้ตัดสินใจ ส่วนผมอยู่ในส่วนของกระบวนการที่จะติดสินถึงผลได้และผลเสียในการเปิดเผยตัวเลข” ซึ่งเบรนแนนย้ำว่า คำแนะนำของชิฟฟ์นั้นมีประโยชน์หากชิฟฟ์จะร่วมผลักดัน
กำลังโหลดความคิดเห็น