เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - หญิงชราคนหนึ่งเสียชีวิตในบ้านใจกลางกรุงซิดนีย์มานานเกือบ 8 ปีก่อนที่จะมีผู้พบโครงกระดูกของเธอ ผลการสอบสวนคดีซึ่งสื่อออสเตรเลียรู้จักกันในชื่อ “สตรีที่ซิดนีย์ลืม” (the woman Sydney forgot) เปิดเผยวันนี้ (6 ก.พ.)
เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2011 เจ้าหน้าที่ตำรวจแดนจิงโจ้ได้พบร่างของนาตาลี วูด ซึ่งเสียชีวิตมาตั้งแต่ต้นปี 2004 โดยเชื่อกันว่าเธอพลัดหกล้มในห้องนอนตัวเองแล้วขยับตัวไม่ได้
ทาวน์เฮาส์ของเธอซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ “เซ็นทรัลสเตชัน” อันพลุกพล่านจอแจในนครซิดนีย์ไปเพียงไม่กี่เมตร ทว่าถูกทิ้งรกร้างจนกระทั่งมีผู้พบร่างของเธอ โดยบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยใยแมงมุม รอยน้ำรั่วซึม และต้นไม้แผ่กิ่งก้านสาขาทะลุผ่านหน้าต่างห้องชั้นบน
แอนดรูว์ วิลส์ ตำรวจฝ่ายสืบสวนอาวุโสกล่าวกับ ศาลชันสูตรพลิกศพในเกลบ พื้นที่แถบชานเมืองซิดนีย์ว่า ในบ้าน ซึ่งประมาณการกันว่ามีมูลค่าเกือบ 1 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (ราว 29 ล้านบาท) หลังนี้ไม่มีฟูกนอน โทรทัศน์ และตู้เย็น
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบกระเป๋าเงิน แต่แหวนและของมีค่าอื่นๆ ก็ไม่สูญหาย และยังคงวางอยู่ในที่เดิม
วิลส์กล่าวว่าวูด ซึ่งอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้มาตั้งแต่เกิด คือเมื่อปี 1924 นั้นเป็นคนรักสันโดษ
“เธอเป็นคนเก็บตัว” วิลส์ระบุในการสอบสวน พร้อมทั้งเสริมว่า “จนถึงขนาดที่ว่าจะยอมเปิดประตูให้เฉพาะคนที่เคาะเป็นรหัสพิเศษเท่านั้น”
ทางด้านเพื่อนบ้านของเธอได้ให้การต่อตำรวจว่า พวกเขาคิดว่าเธอย้ายออกไปแล้วและไม่มีใครอยู่บ้านหลังนี้
ทั้งนี้ วูดไม่ได้เขียนพินัยกรรมไว้ และอีนิด เดวิส น้องสะใภ้ของเธอ ตลอดจนญาติห่างๆ อีก 4 คนกำลังทำเรื่องขอเป็นเจ้าของทรัพย์สินภายในบ้านหลังนี้
เดวิส ที่มีร่างกายอ่อนแอ และเป็นภรรยาของน้องชายวูดซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปี 2009 กล่าวกับเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพว่า เธอเห็นวูดเป็นครั้งสุดท้ายทางหน้าต่างรถบัส เมื่อวันที่ 30 มกราคม ปี 2004
“เราขาดการติดต่อกันเพราะสามีของฉันเป็นโรคสมองเสื่อมและล้มป่วยหนัก” เธอเผย
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จะสืบสวนขยายผลคดีนี้ต่อไป