เอเอฟพี/เอพี – นักเคลื่อนไหวซึ่งเป็นแกนนำในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลยูเครนที่หายตัวไปนาน 8 วันปรากฏตัวอีกครั้งในวันนี้ (31 ม.ค.) พร้อมกับเนื้อตัวโชกเลือดและสะบักสะบอม โดยเขาระบุว่ากลุ่มคนที่จับตัวเขาไปได้ตัดใบหูข้างหนึ่งของเขาแล้วใช้ตะปูตอกมือ ก่อนที่จะนำตัวเขาไปทิ้งในป่า
ดีมืยโตร บูลาตอฟ สมาชิกขบวนการต่อต้านซึ่งมีบทบาทในการประท้วงต่อต้านประธานาธิบดี วิคตอร์ ยานูโควิช ปรากฏตัวทางโทรทัศน์ยูเครน พร้อมกับใบหน้าปูดโปนและเกรอะกรังไปด้วยเลือด หลังหายตัวไปจากกรุงเคียฟตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา
ในการให้สัมภาษณ์อย่างตะกุกตะกักด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ เพราะยังหวาดผวากับเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่หาย บูลาตอฟกล่าวว่า กลุ่มคนแปลกหน้าที่จับตัวเขาไปได้ใช้ผ้าปิดตาเขาแล้วทำร้ายร่างกายเขา ก่อนที่จะนำเขาไปทิงไว้ในป่านอกกรุงเคียฟ
จากนั้นเขาก็คลำทางไปยังหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้วานนี้ (30) แล้วพยายามติดต่อไปหาเพื่อนบางคน
“พวกเขาตรึงผมไว้ เอาตะปูตอกมือ เฉือนใบหู เอามีดกรีดหน้าผม” บูลาตอฟกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ของยูเครนทั้งที่ยังสวมเสื้อที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดว่า “ขอบคุณพระเจ้า ที่ทำให้ผมรอดมาได้”
“ตอนนี้ตาผมยังพร่าอยู่เลย เพราะผมนั่งอยู่ในที่มืดมาตลอดเวลา” เขากล่าวพร้อมทั้งเสริมว่า เขาไม่เห็นหน้าคนที่จับตัวเขาไปแต่พวกเขาพูดสำเนียงรัสเซีย
สิ่งที่บูลาตอฟเล่าได้จุดประกายให้นานาชาติออกมาประณามการกระทำดังกล่าว โดยสเตฟาน ฟูเล กรรมาธิการด้านการขยายจำนวนสมาชิกและนโยบายประเทศเพื่อนบ้านของอียู ได้พูดถึงเหตุการณ์นี้ว่า “เลวทราม” และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของยูเครนสืบสวนหาตัวคนร้ายมารับผิด
นอกจากนี้ สำนักงานสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นยังได้ออกมาเรียกร้องให้ยูเครนเริ่มต้นสืบสวนการตาย การลักพาตัว และการทรมาน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่มีความไม่สงบทางการเมือง
“เรารู้สึกตกใจกับรายงานที่ว่า มีผู้เสียชีวิตที่กรุงเคียฟในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องมีการสืบสวนอย่างละเอียดและตรงไปตรงมาในทันที” รูเพิร์ต โควิลล์ โฆษกของข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติระบุ
ทางด้าน วิทาลี คลิตช์โก อดีตแชมป์มวยโลกรุ่นเฮฟวีเวตและหัวหน้าพรรค UDAR ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของยูเครนชี้ว่า คนร้ายจับตัวบูลาตอฟไปทรมานเพื่อ “ข่มขวัญผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับระบอบปกครองยูเครน และทำให้พวกเขาคิดว่าเรื่องแบบนี้อาจเกิดขึ้นกับตัวเอง”