รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดี มะห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ เสนอแผนในวันอังคาร (28) ให้อิสราเอลถอนทหารออกจากเขตเวสต์ แบงก์ภายใน 3 ปี โดยขอให้แผนถอนทหารนี้ ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงสันติภาพตะวันออกกลางระหว่างทั้งสองฝ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ผู้นำปาเลสไตน์กล่าวถึงกรอบเวลา 3 ปีดังกล่าวระหว่างเข้าร่วมการประชุมด้านความมั่นคงนานาชาติที่จัดขึ้น ณ นครเทลอาวีฟ ของอิสราเอล โดยระบุว่า การถอนกำลังทหารของอิสราเอลออกจากเขตเวสต์ แบงก์ ไม่ควรใช้เวลานานเกินกว่า 3 ปี ซึ่งถือเป็นข้อเสนอที่คล้ายคลึงกับเมื่อครั้งที่อิสราเอลใช้เวลา 3 ปี ในการถอนทหารของตนออกจากคาบสมุทรซีนาย เมื่อครั้งทำสนธิสัญญาสันติภาพกับอียิปต์ เมื่อปี 1979
“ผู้ใดก็ตามที่คิดจะใช้เวลานาน 10-15 ปี สำหรับการเปลี่ยนผ่าน ผู้นั้นคือผู้ที่ไม่ต้องการสันติภาพอย่างแท้จริง ผมขอเสนอให้กระบวนการต่างๆ ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลา 3 ปี” อับบาสกล่าว
รายงานข่าวระบุว่า ผู้นำปาเลสไตน์ประกาศพร้อมเปิดทางให้ “ฝ่ายที่ 3” อย่าง องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) หรือกองกำลังนานาชาติภายใต้การนำของสหรัฐฯ เข้ามาประจำการในปาเลสไตน์แทนกำลังทหารอิสราเอล เพื่อทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในเขตเวสต์ แบงก์ในอนาคต
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวด้านความมั่นคงในรัฐบาลอิสราเอล เผยว่า ข้อเสนอล่าสุดของผู้นำปาเลสไตน์ ที่ต้องการให้อิสราเอลถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากเขตเวสต์ แบงก์ ภายใน 3 ปีนั้น อาจกลายเป็น “อุปสรรคสำคัญ” ต่อการเจรจาสันติภาพที่มีสหรัฐฯเป็นตัวกลางที่เปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
เนื่องจากข้อเสนอดังกล่าวขัดต่อจุดยืนของอิสราเอลที่ยังคงต้องการคงกำลังทหารของตนไว้ในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญต่างๆ อย่าง บริเวณหุบเขาจอร์แดน รวมถึงเขตเวสต์ แบงก์ และฉนวนกาซาต่อไป เนื่องจากหวั่นเกรงว่า พื้นที่เหล่านี้จะกลายเป็นแหล่งซ่องสุมของกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง ซึ่งเป็นภัยต่ออิสราเอล หากอิสราเอลถอนกำลังของตนออกมา
ในอีกด้านหนึ่ง ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่เพิ่งมีการเผยแพร่ในวันอังคาร (28) โดยสถาบันความมั่นคงแห่งชาติศึกษาของอิสราเอล (INSS) และศูนย์นโยบายและการวิจัยเชิงสำรวจแห่งปาเลสไตน์ (PSR) พบว่า ร้อยละ 67 ของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นชาวอิสราเอล และร้อยละ 70 ของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นชาวปาเลสไตน์ ไม่เชื่อว่า อิสราเอลและปาเลสไตน์จะสามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพถาวรต่อกันได้