รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - จำนวนผู้ว่างงานในฝรั่งเศสที่เพิ่มสูงขึ้นอีกกว่า 10,200 คน ในเดือนธันวาคมส่งผลให้อัตราว่างงานในแดนน้ำหอมพุ่งสูงทำสถิติใหม่ และเป็นการตอกย้ำถึงความล้มเหลวของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ที่ก่อนหน้านี้ให้คำมั่นจะลดจำนวนผู้ว่างงานในประเทศลงให้ได้อย่างสำคัญ ภายในสิ้นปีที่ผ่านมา
ข้อมูลล่าสุดของกระทรวงแรงงานฝรั่งเศสที่มีการเปิดเผยในวันจันทร์ (27) ระบุว่า จำนวนผู้ที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ว่างงานในแผ่นดินใหญ่ของฝรั่งเศส ซึ่งไม่นับรวมดินแดนที่เป็นหมู่เกาะต่างๆ ได้เพิ่มจำนวนเป็น 3,303,200 รายในเดือนธันวาคม ซึ่งถือเป็นสถิติผู้ว่างงานสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
จำนวนผู้ว่างงานดังกล่าวที่มีมากกว่า 3.3 ล้านคน หมายความว่าอัตราว่างงานของฝรั่งเศสได้ปรับเพิ่มขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์เฉพาะในเดือนธันวาคม และพุ่งสูงขึ้นถึง 5.7 เปอร์เซ็นต์ในรอบ 1 ปี ขณะที่อัตราว่างงานโดยรวมของทั้งประเทศยังคงพุ่งสูงเกือบ 11 เปอร์เซ็นต์ ตอกย้ำความล้มเหลวของประธานาธิบดีออลลองด์ ผู้นำชาติเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของยูโรโซนที่เคยให้คำมั่นว่าอัตราการว่างงานในประเทศจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อสิ้นปี 2013
ด้านประธานาธิบดีออลลองด์ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนกรุงอังการาของตุรกี ออกมายอมรับว่า ความสำเร็จของรัฐบาลของเขาในการนำพาเศรษฐกิจฝรั่งเศสกลับคืนสู่ “ความมีเสถียรภาพ” ได้อีกครั้งนั้น ยังไม่เป็นการเพียงพอ และกล่าวว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่รัฐบาลของเขาต้องเร่งดำเนินการเพื่อช่วยให้บรรดาบริษัทห้างร้านต่างๆ สามารถกลับมาจ้างงานได้อีกครั้ง
โดยหนึ่งในมาตรการที่เขาเตรียมประกาศใช้ คือ แผน “พักการจ่ายภาษีชั่วคราว” สำหรับบริษัทเอกชนที่ให้คำมั่นว่าจะมีการว่าจ้างแรงงานเพิ่ม แม้นักวิเคราะห์จากหลายสำนักจะลงความเห็นว่ากว่าที่มาตรการพักการจ่ายภาษีของออลลองด์ให้กับภาคเอกชนเพื่อแลกกับการจ้างงานจะเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปเป็นร่างนั้น อาจต้องรอถึงปี 2016 เป็นอย่างน้อย
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าภาวะความอ่อนแอของตลาดแรงงานในฝรั่งเศส ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยส่งผลให้บรรดาบริษัทต่างๆ มีแนวโน้มจะปลดพนักงานของตนมากขึ้นในเวลานี้ แทนที่จะจ้างแรงงานเพิ่ม
โดยเฉพาะกรณีของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง “แอร์บัส” ที่เตรียมเดินหน้าแผนปลดพนักงานเพิ่มเติมอีกมากกว่า 5,000 ตำแหน่ง ซึ่งในจำนวนนี้มีมากกว่า 1,400 ตำแหน่งที่เป็นตำแหน่งงานในฝรั่งเศส