รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สื่อดังฝรั่งเศส “Journal du Dimanche” รายงาน ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสประกาศ “แยกทาง” กับนาง “วาเลรี ตริเยร์เวเลร์” สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ถือเป็นความคืบหน้าล่าสุดหลังข่าวอื้อฉาวที่ผู้นำเมืองน้ำหอมแอบมีสัมพันธ์สวาทกับดาราสาวใหญ่ “ชูลี กาเยต์” ถูกเผยแพร่ออกไปจนกลายเป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า “วาเลรี ตริเยร์เวเลร์” สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศส วัย 48 ปี ซึ่งใช้ชีวิตคู่กับประธานาธิบดีโอลลองด์ วัย 59 ปี มาตั้งแต่เมื่อปี 2007 เผชิญกับเรื่องสะเทือนใจครั้งใหม่ หลังจากผู้นำฝรั่งเศสตัดสินใจแยกทางปิดฉากชีวิตรักกับเธอ ก่อนที่ นางตริเยร์เวเลร์ เตรียมออกเดินทางไปยังอินเดียในวันอาทิตย์ (26) เพื่อร่วมทริปการกุศลงานหนึ่งที่จะจัดขึ้นในนครมุมไบในวันจันทร์ (27)
ก่อนหน้านี้ ตริเยร์เวเลร์ เพิ่งเดินทางออกจากโรงพยาบาลในกรุงปารีสในวันเสาร์ที่แล้ว (18) หลังตรอมใจและประสบภาวะเครียดจัดจากข่าวฉาวของสามี ที่แอบปันใจให้กับดาราสาวใหญ่ “ชูลี กาเยต์” วัย 41 ปี
เมื่อสองสัปดาห์ก่อนนิตยสารซุบซิบคนดัง “Closer” ตีพิมพ์ภาพถ่ายที่อ้างว่าบันทึกไว้ได้ ขณะที่โอลลองด์ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2012 เดินทางไปยังอพาร์ตเมนต์ของนักแสดงสาวใหญ่ ชูลี กาเยต์
ขณะเดียวกัน ทางนิตยสารจอมแฉยังเดินหน้าเปิดโปงสัมพันธ์สวาทระหว่างโอลลองด์กับกาเยต์เพิ่มเติม แม้จะถูกกาเยต์ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000 ยูโร (ราว 2.2 ล้านบาท) รวมถึงค่าใช้จ่ายทางกฎหมายอีก 4,000 ยูโร (ราว 177,865 บาท) โดยแฉว่าสัมพันธ์สวาทระหว่างผู้นำฝรั่งเศสและกาเยต์ ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2012 แล้ว โดยทั้งคู่ลักลอบพบกันหลายครั้งทั้งที่ห้องพักทางตะวันตกของกรุงปารีส รวมถึงแฟลตแห่งหนึ่งไม่ไกลจากทำเนียบประธานาธิบดี
ทั้งนี้ โอลลองด์ซึ่งกลายเป็นผู้นำที่มีคะแนนนิยมต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสมัยใหม่ของฝรั่งเศส กำลังเผชิญกับมรสุมทั้งทางการเมืองและชีวิตส่วนตัว หลังประสบความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการว่างงานที่ยังคงพุ่งสูงถึงเกือบ 11 เปอร์เซ็นต์ในประเทศที่ได้ชื่อว่ามีขนาดของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่มยูโรโซน
ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดชี้ว่า 2 ใน 3 ของสาธารณชนฝรั่งเศสเห็นว่า เรื่องอื้อฉาวทางเพศของโอลลองด์ ได้ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ในฐานะชาติที่ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมคาทอลิกจนหมดสิ้น
