เอเอฟพี/เอพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักคนชราในแคว้นควิเบกของแคนาดา ในช่วงกลางดึกของคืนวันพฤหัสบดี (23) จนวอดทั้งหลัง คาดผู้สูงวัยมากกว่า 30 ชีวิตอาจถูกไฟครอกเสียชีวิต
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและทีมกู้ภัยพบร่างของคนชราที่เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้แล้วอย่างน้อย 3 ราย แต่ยังไม่พบผู้สูงวัยที่สูญหายไปอีกมากกว่า 30 คนที่พักอยู่ในบ้านพักขนาด 52 ห้องพักดังกล่าว และเกรงว่าทั้งหมดอาจเสียชีวิตแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่พบอุปสรรคสำคัญในการเข้าควบคุมเพลิงและค้นหาร่างของผู้ที่ยังคงสูญหายจากสภาพอากาศที่เลวร้าย และหิมะที่ตกลงมาทับถมกันสูงกว่า 1 ฟุตในบริเวณที่เกิดเหตุ ตลอดจนกระแสลมที่พัดแรงกว่า 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แต่ถึงกระนั้น เจ้าหน้าที่ก็สามารถอพยพผู้สูงอายุ 23 คนออกมาจากอาคารดังกล่าว ซึ่งในจำนวนนี้ 13 รายได้รับบาดเจ็บ และมี 1 รายอาการสาหัส โดยทั้งหมดถูกนำตัวไปรักษายังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
ข้อมูลระบุว่า บ้านพักคนชราดังกล่าวเป็นที่พักของผู้สูงอายุราว 50-60 คน ซึ่งในจำนวนนี้กว่าครึ่งหนึ่งมีอายุเกินกว่า 85 ปี
ทั้งนี้ บ้านพักคนชราที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ตั้งอยู่ที่เมือง “L'Isle-Verte” เมืองขนาดเล็กอันเงียบสงบ ที่เป็นบ้านของประชากรราว 1,400 คน และอยู่ห่างจากนครมอนทรีออลไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 450 กิโลเมตร
ด้านชีเนตต์ การอง รักษาการนายกเทศมนตรีของเมือง L'Isle-Verte ออกมาแถลงว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชราดังกล่าวไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้และจำเป็นต้องมีผู้ดูแล โดยมีผู้สูงอายุหลายคนต้องใช้รถเข็นวีลแชร์ หรือใช้ไม้เท้าเป็นอุปกรณ์ช่วยในการเคลื่อนไหว และผู้สูงอายุบางรายก็ล้มป่วยด้วยโรค “อัลไซเมอร์”
ขณะที่แกตอง เลลิเยวเร สมาชิกรัฐสภาแคว้นควิเบก ออกมาเปิดเผยกับสถานีวิทยุภาษาฝรั่งเศส “Radio-Canada” โดยระบุว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นถือเป็นข่าวเศร้าสลดสำหรับชุมชน และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจะเพิ่มสูงขึ้นอีก