เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิบวานนี้ (23) ดีดตัวขึ้น หลังสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯ ลดลงเกินคาดหมาย ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งแรงจากข้อมูลการผลิตจีนและผลประกอบการบริษัทยักษ์ใหญ่ ขณะที่ทองคำปิดแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 9 สัปดาห์ หลังได้ปัจจัยหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 59 เซ็นต์ ปิดที่ 97.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 69 เซ็นต์ ปิดที่ 107.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันทั้งสองสัญญา ซื้อขายในแดนลบช่วงเปิดตลาดท่ามกลางการขายทำกำไรหลังขยับขึ้นมา 2 วันติด อย่างไรก็ตาม หลังกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานสต๊อกเชื้อเพลิงสำรองรายสัปดาห์ ที่ล่าช้ามา 1 วันด้วยติดวันหยุดราชการ ก็ดันให้น้ำมันดีดตัวขึ้นขานรับทันที
ในรายงานดังกล่าวพบว่า คลังน้ำมันกลั่นสำรอง ในนั้นประกอบด้วยน้ำมันทำความร้อนและน้ำมันดีเซล ลดลงถึง 3.2 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 มกราคม สร้างความประหลาดใจแก่นักวิเคราะห์อย่างมาก ด้วยเบื้องต้นคาดหมายว่าน่าจะลดลงแค่ราวๆ 800,000 บาร์เรลเท่านั้น บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันแข็งแกร่งในชาติผู้บริโภครายใหญ่ของโลก
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (23) ดิ่งลงแรง จากข้อมูลกิจกรรมการผลิตที่อ่อนแอในจีนและรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 อันน่าผิดหวังของบริษัทหลายแห่ง
ดาวโจนส์ ลดลง 171.69 จุด (1.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,201.65 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 16.02 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,828.84 จุด แนสแดค ลดลง 24.36 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,218.64 จุด
เอชเอสบีซี โฮลดิงส์ รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (23) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนมกราคม ลดลงแตะ 49.6 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 50.5 ในเดือนธันวาคม ขณะที่ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของกิจกรรมภาคการผลิต
ข่าวคราวน่ากังวลจากจีน มีออกมาท่ามกลางรายงานผลประกอบการที่ผสมผสานของเหล่าบริษัทในวอลล์สตรีท ด้วยผลดำเนินการที่แข็งแกร่งเน็ตฟลิกซ์ ถูกบดบังโดยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของล็อกฮีด มาร์ตินและบริษัทอื่นๆ
ส่วนราคาทองคำวานนี้ (23) ขยับขึ้นแรง แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 9 สัปดาห์ หลังได้ปัจจัยหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 23.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,262.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
