เอเจนซี/ฮิวแมนไรต์วอตช์ - ฮิวแมนไรต์วอตช์ ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลไทยที่ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในความพยายามควบคุมการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้าน ระบุสถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นเลวร้ายขนาดนั้น ขณะเดียวกัน ในรายงานประจำปีก็ตำหนิยิ่งลักษณ์ ล้มเหลวทั้งทางด้านคืนความปรองดองสู่ประเทศ แถมยังสนับสนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ก่อความแตกแยกเสียอีก
นายสุนัย ผาสุก นักวิจัยอาวุโสของฮิว แมนไรต์ วอตช์ องค์กรสิทธิมนุษยชนระดับโลก ระบุว่าสถานการณ์ความมั่นคงยังไม่ร้ายแรงถึงขั้นตำรวจไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และดูเหมือนว่าพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจะออกมาเพื่อเหตุผลทางการเมืองมากกว่าเหตุผลด้านความมั่นคงปลอดภัยของสาธารณะ
พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ถูกประกาศออกมาตามหลังเหตุโจมตีหลายระลอกต่อสถานที่ชุมนุม ซึ่งทั้งรัฐบาลและผู้ประท้วงต่างกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของกันและกัน
เมื่อวันศุกร์ (17) มีผู้ประท้วงเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บหลายคนในเหตุโจมตีด้วยระเบิดระหว่างการเดินขบวนของผู้ชุมนุม จากนั้นในวันอาทิตย์ (19) ก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 28 ราย หลังคนร้ายปาระเบิด 2 ลูกเข้าใส่สถานที่ชุมนุมบริเวณแยกแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตรวมแล้ว 9 ราย และบาดเจ็บหลายร้อยคน นับตั้งแต่การประท้วงเริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
อีกด้านหนึ่งองค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรต์วอตช์ ซึ่งมีฐานบัญชาการในนิวยอร์ก สหรัฐฯ ได้ระบุในรายงานประจำปี 2014 ตำหนิรัฐบาลไทย ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมา แทบไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนที่รื้อรังในประเทศ
“คำสัญญาของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่บอกว่าจะนำพาประเทศคืนสู่ความปรองดองและให้ความยุติธรรมแก่เหยื่อความรุนแรงปี 2010 ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง” แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียขององค์กรฮิวแมนไรต์ วอตช์ระบุ “ด้วยการปลักดันนิรโทษกรรมเหมาเข่งแก่เหล่าผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนจากทุกฝ่าย รัฐบาลไม่ได้สนับสนุนความปรองดอง แต่กลับกันยังเติมเชื้อความแตกแยกทางการเมืองของไทยให้รุนแรงยิ่งขึ้น”
ในรายงานประจำปี 2014 ฉบับที่ 24 มีทั้งหมด 667 หน้า ทางฮิวแมนไรต์ วอตช์ได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนกว่า 90 ประเทศทั่วโลก ในนั้นรวมถึงวิกฤตสงครามกลางเมืองในซีเรีย ซึ่งทางฮิวแมนไรต์ วอตช์บอกว่ามีการเข่นฆ่าพลเมืองอย่างน่าสยดสยองและกว้างขวาง แต่เหล่าผู้นำโลกกลับแทบไม่ทำอะไรเลยที่จะหยุดยั้งมัน
