เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรียลงนามในข้อตกลงประวัติศาสตร์เพื่อเปิดทางให้บริษัทด้านพลังงานของรัสเซีย “โซยุซเนฟเตก๊าซ” เข้าทำการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งซีเรีย
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลอัสซาดซึ่งมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับรัสเซียตัดสินใจลงนามในข้อตกลงเพื่อเปิดทางให้บริษัทพลังงานดังกล่าวของรัสเซีย เข้าทำการสำรวจและขุดเจาะน้ำมัน รวมถึงก๊าซธรรมชาติ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,190 ตารางกิโลเมตรบริเวณนอกชายฝั่งของซีเรียด้านที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ภายใต้สัญญาสัมปทานที่คาดว่าจะมีมูลค่าราว 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,953 ล้านบาท)
ด้าน สุไลมาน อับบาส รัฐมนตรีน้ำมันของซีเรียเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า สัญญาสัมปทานดังกล่าวที่รัฐบาลซีเรียมอบให้กับบริษัทโซยุซเนฟเตก๊าซจากรัสเซียนั้นมีระยะเวลายาวนานถึง 25 ปี และบริษัทพลังงานจากแดนหมีขาวแห่งนี้จะเป็นบริษัทด้านพลังงานเพียงแห่งเดียว ที่ได้สิทธิ์สำรวจและผลิตตามสัญญาดังกล่าว
ขณะที่โฆษกหญิงของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของซีเรียออกมาแถลงว่า ในเบื้องต้นคาดว่าทางบริษัทโซยุซเนฟเตก๊าซจะลงทุนขั้นแรกราว 15 ล้านดอลลาร์ในช่วงของการขุดเจาะเพื่อทดสอบหาปริมาณน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ก่อนจะลงทุนเพิ่มเติมอีก 75 ล้านดอลลาร์ในขั้นต่อไปเพื่อเตรียมการผลิตในเชิงพาณิชย์
รายงานข่าวระบุว่า ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นจากการเจรจานานหลายเดือน ระหว่างผู้แทนรัฐบาลมอสโกและดามัสกัสมีเงื่อนไขที่ระบุว่าทางบริษัทโซยุซเนฟเตก๊าซของรัสเซียจะต้องช่วยฝึกอบรมบุคลากรด้านปิโตรเลียมของซีเรียด้วย
ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันของซีเรียได้ลดลงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ที่เกิดความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองในประเทศเมื่อเดือนมีนาคมปี 2011 ขณะที่ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติของซีเรียก็ลดลงเหลือเพียง 16.7 ล้านคิวบิกเมตรต่อวัน จากที่เคยผลิตได้สูงถึงวันละ 30 ล้านคิวบิกเมตร นอกจากนั้น โครงสร้างพื้นฐานของซีเรียอย่างเส้นทางรถไฟและท่อส่งน้ำมัน รวมถึงโรงกลั่นต่างได้รับความเสียหายจากผลของการสู้รบที่ยืดเยื้อใกล้เข้าสู่ขวบปีที่ 3