เอเอฟพี - เกิดเหตุระเบิดในตลาดที่ตั้งอยู่ใกล้โบสถ์แห่งหนึ่งในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรักเมื่อวันพุธ (25) คร่าชีวิตชาวบ้าน 35 รายและบาดเจ็บกว่า 50 คน เบื้องต้นมีข่าวว่าคนร้ายพุ่งเป้าโจมตีโบสถ์ขณะที่ชาวคริสเตียนกำลังประกอบพิธีมิสซาช่วงเทศกาลคริสต์มาส อย่างไรก็ตามทางการได้ออกมาปฏิเสธเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ระเบิดข้างทาง 2 ลูกถูกจุดชนวนขึ้นในตลาดยอดนิยมแห่งหนึ่งในเขตดูรา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 35 รายและบาดเจ็บ 56 คน” ซาด มาน โฆษกกระทรวงมหาดไทยบอกกับเอเอฟพี อ้างถึงพื้นที่ทางใต้ของกรุงแบกแดด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงบอกว่านอกจากเหตุระเบิดที่ตลาดแล้ว คนร้ายยังจุดชนวนคาร์บอมบ์โดยมีเป้าหมายโจมตีโบสถ์เซนต์จอห์น ซึ่งอยู่ใกล้ๆกันด้วย แต่ทางโฆษกกระทรวงมหาดไทย รวมถึงบาทหลวงในพื้นที่ล้วนปฏิเสธข้อมูลนี้
“มันเป็นการโจมตีที่มุ่งเล่นงานตลาด ไม่ใช่โบสถ์” มานบอก พร้อมระบุว่าพื้นที่เป้าหมายมีทั้งชาวมุสลิมและคริสเตียนพักอาศัยอยู่ ขณะที่บาทหลวงรายหนึ่งเสริมว่า “โบสถ์ไม่เกี่ยวอะไรกับการโจมตี มันเป็นการโจมตีตลาด”
บ่อยครั้งที่กลุ่มนักรบหัวรุนแรงมักเลือกโจมตีสถานที่ซึ่งมีฝูงชนจำวนมากรวมตัวกันอยู่ อาทิตลาด คาเฟและมัสยิด ในความพยายามก่อความสูญเสียให้ได้มากที่สุด ขณะที่นักวิเคาะห์มองว่าความขุ่นเคืองในหมู่ประชมคมชาวสุหนี่ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในอิรัก คือปัจจัยหลักที่โหมกระพือความไม่สงบในปีนี้ นอกจากนี้สงคราม 33 เดือนของซีเรีย ก็มีบทบาทสำคัญเติมเชื้อความรุนแรงด้วย
แม้รัฐบาลอิรักยอมอะลุ้มอล่วยบางอย่างโดยมีเป้าหมายปลอบโยนชาวอาหรับสุหนี่ ไม่ว่าจะเป็นปล่อยนักโทษหรือเพิ่มเงินเดือนแก่กลุ่มซอห์วา นักรบต่อต้านอัลกออิดะห์ แต่ระลอกคลื่นแห่งความรุนแรงก็ย้ำให้เห็นว่ามีอีกหลายประเด็นที่ยังไม่ได้รับการจัดการ
ทั้งนี้ จากข้อมูลเอเอฟพีที่รวบรวมจากแหล่งข่าวความมั่นคงและทางการแพทย์ พบว่านับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2013 มีผู้คนเสียชีวิตจากเหตุความรนแรงในอีรักไปแล้วมากกว่า 6,650 คน