เอเจนซี - สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งทรงฉลองวันคริสต์มาสในฐานะประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกเป็นครั้งแรก เมื่อวันพุธ (25) ทรงมีดำรัสเรียกร้องความสามัคคีระหว่างผู้ไม่เชื่อถือในพระเจ้ากับผู้ศรัทธาของทุกๆ ศาสนา และขอให้ร่วมมือกันสร้างสันติที่เริ่มจากภายในครอบครัวและแผ่กระจายไปทั่วโลก
ในพระดำรัสที่ตรัสต่อคริสตศาสนิกชนจากระเบียงมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ จุดเดียวกับเมื่อครั้งที่พระองค์ปรากฏตัวต่อโลกครั้งแรกตอนที่ได้รับเลือกเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา โป๊ปฟราสซิสยังได้วิงวอนให้ช่วยกันปกป้องสิ่งแวดล้อมจากความโลภและการช่วงชิงของมนุษย์
ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ที่มีศาสนิกชนให้ความเคารพนับถือทั่วโลกราว 1.2 พันล้านคน ยังทรงเรียกร้องความร่วมมือสร้างสันติภาพที่เริ่มจากภายในครอบครัว พร้อมตรัสว่าประชาชนของศาสนาอื่นๆ ต่างก็ภาวนาเพื่อสันติภาพ และชวนผู้ไม่เชื่อถือในพระเจ้าเหล่าผู้ศรัทธาเข้ามาร่วมกันในความปรารถนาที่จะมีสันติภาพในโลกนี้ “ข้าพเจ้าของเชิญชวนแม้แต่ผู้ไม่เชื่อถือในพระผู้เป็นเจ้า แต่มีความปรารถนาแห่งสันติ เข้าร่วมกับเรา ความปรารถนาที่เปิดใจกว้างและช่วยให้เราสามัคคี ไม่ว่าจะเป็นคำสวดมนต์ภาวนาหรือแค่ความปรารถนา ทุกคนล้วนทำเพื่อสันติภาพ”
คำตรัสที่อ้าแขนต้อนรับเหล่าผู้ไม่ศรัทธาต่อพระเจ้าและประชาชนที่นับถือศาสนาอื่นๆ ถือเป็นทัศนคติที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับอดีตพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่บางครั้งก็ทำให้ผู้คนที่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก รู้สึกว่าพระองค์มองเห็นพวกเขาเป็นแค่ผู้ศรัทธาชั้น 2
นอกจากนี้แล้วพระองค์ยังทรงเรียกร้องสังคมแห่งความปรองดองในซูดานใต้ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์สู้รบระหว่างทหารของกองทัพซูดานใต้กับกองกำลังอาวุธของฝ่ายกบฏคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วจำนวนมาก และกำลังคุกคามความดำรงอยู่ของสันติภาพในประเทศที่เพิ่งเกิดใหม่แห่งนี้
ขณะเดียวกัน สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสก็ทรงวิงวอนให้การมีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งในซีเรีย ไนจีเรีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และอิรัก รวมถึงภาวนาขอให้กระบวนการสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ได้ผลลัพธ์ที่ดี “สงครามทำลายและทำร้ายหลายชีวิตมากมายเหลือเกิน ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่เป็นเด็ก คนชราสตรีที่อ่อนแอและคนป่วย” พระองค์ตรัส
เหล่านักแสวงบุญเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อร่วมฉลองคริสต์มาสที่วาติกัน โดยบางส่วนบอกว่าที่ตัดสินใจมาในปีนี้ ก็เพราะรู้สึกว่าโป๊ปฟรานซิสทรงนำความสดชื่นกลับคืนสู่คอทาลิกอีกครั้ง “พระองค์ทรงนำมาซึ่งยุคใหม่ของวาติกัน คอทอลิกที่พุ่งเป้าช่วยเหลือคนยากจน ใช้ชีวิตเรียบง่ายและกระตือรือร้นมากกว่าเดิม” คริสตศาสนิกชนรายหนึ่งที่ลงทุนเดินทางมาจากอาร์เจนตินากล่าว