เอเอฟพี - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติเห็นชอบวานนี้ (24) ให้ส่งกำลังตำรวจและทหารเข้าไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพในซูดานใต้อีกเกือบ 6,000 นาย ตามคำร้องขอของเลขาธิการสหประชาชาติ บัน คีมูน
บัน เรียกร้องให้มีการเพิ่มกองกำลังของคณะผู้แทนสหประชาชาติในซูดานใต้ (UNMISS) เพื่อรับมือเหตุสู้รบที่รุนแรง ซึ่งสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นก็ได้อนุมัติเพิ่มกองกำลังรักษาสันติภาพอีกเกือบเท่าตัว รวมเป็น 12,500 นาย
อย่างไรก็ตาม ผลการลงมติเป็นเพียงการอนุญาตให้เพิ่มกองกำลังเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติยังต้องรอประเทศสมาชิกร่วมกันส่งทหารมาช่วยในภารกิจของยูเอ็น ซึ่งบันชี้ว่ากระบวนการนี้ “ไม่อาจเกิดได้ในชั่วข้ามคืน”
คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นยังเรียกร้องให้ฝ่ายที่สนับสนุนประธานาธิบดีซัลวา คีร์ แห่งซูดานใต้ และอีกฝ่ายที่หนุนหลังอดีตรองประธานาธิบดีริเอค มาชาร์ ยุติการใช้กำลังห้ำหั่นกัน โดยแสดงความเป็นห่วง “สถานการณ์ความมั่นคงและวิกฤตด้านมนุษยธรรม” ที่กำลังเกิดขึ้น พร้อมเตือนว่า ผู้ที่มีส่วนในการก่ออาชญากรรมสงครามทุกคนจะต้องได้รับโทษ
ทั้งนี้ เลขาธิการ บัน คีมูน จะต้องแจ้งรายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเกี่ยวกับการส่งทหาร หรือขอกำลังสนับสนุนเพิ่มเติม ภายใน 15 วัน
สัปดาห์ที่แล้ว สมาชิกชนเผ่านูเอร์ที่สนับสนุนอดีตรองประธานาธิบดีมาชาร์ได้บุกโจมตีชนเผ่าดิงกาซึ่งหลบหนีการสู้รบมาพักอาศัยอยู่ในค่ายของยูเอ็น ส่งผลให้กองกำลังรักษาสันติภาพชาวอินเดียเสียชีวิตไป 2 นาย
เจ้าหน้าที่ยูเอ็นเผยวานนี้ (24) ว่า ยูเอ็นอยู่ระหว่างตรวจสอบกรณีการสังหารหมู่ในซูดานใต้ที่อาจเข้าขั้น “อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ” ขณะที่ผู้แทนอาวุโสในซูดานใต้คนหนึ่งระบุว่า เหตุการณ์สู้รบทำให้มีประชาชนล้มตายไปแล้ว “หลายพันคน”
ซูดานใต้ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากซูดานเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2011 และถือเป็นประเทศอายุน้อยที่สุดในโลก