เอเจนซีส์ - นักวิทยาศาสตร์ประจำศูนย์ Johnson Space Center หรือ JSC ตั้งอยู่ในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส ได้เผยโฉม “Valkyrie” หุ่นยนต์แอนดรอยด์ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ความสูงราว 6 ฟุต และมีไฟส่องตรงกลางลำตัวเหมือน IRONMAN เพื่อเข้าแข่งขัน “Darpa Robot Chalenge” ของเพนตากอนในรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ ที่หวังเพื่อจะพัฒนาหุ่นยนต์กู้ภัยทำงานในสิ่งที่มนุษย์ทำงานไม่ได้ ซึ่งการแข่งขันได้จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (20) นี้ ซึ่งทีมเข้าแข่งขันครั้งนี้มีทั้งจากล็อกฮีด มาร์ติน รวมไปถึง MIT และมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน และอีก 13 ทีม ชั้นนำทั่วโลกซึ่งมีตัวแทน SCHAFT Inc จากญี่ปุ่นอยู่ในนั้น
หน่วยงาน Advanced Research Projects Agency หรือ Darpaของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้จัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์กู้ภัย หรือ “Darpa Robot Chalenge” (DRC)ขึ้นเป็นเวลา 2 วันเริ่มตั้งแต่วันที่ 20-21 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากทีมนาซ่า ประจำศูนย์ Johnson Space Center หรือ JSC ที่ได้ส่ง “Valkyrie” หุ่นยนต์แอนดรอยด์ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ความสูงราว 6 ฟุต และมีไฟส่องตรงกลางลำตัวเหมือน IRONMAN แล้วยังมีหุ่นยนต์ Chimp จากทีมศูนย์ National Robotics Engineering Center ของมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน ทีมแข่งขันจากล็อกฮีด มาร์ติน รวมไปถึง MIT และอีก 13 ทีม ชั้นนำทั่วโลกซึ่งมีตัวแทนจาก SCHAFT Inc จากญี่ปุ่นอยู่ในนั้น
โดยจุดมุ่งหมายเพื่อจะพัฒนาหุ่นยนต์กู้ภัยเพื่อที่จะช่วยชีวิตมนุษย์และลดความเสี่ยงในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย โดยกิล แพรตต์ ผู้จัดการโครงการของ Darpa ได้เผยว่า “ทางหน่วยงานได้ทำงานร่วมกับหน่วยกู้ภัยสหรัฐฯ เพื่อค้นหาว่างานประเภทไหนที่ทางหน่วยงานต้องการให้หุ่นยนต์ทำในปฏิบัติการกู้ภัย”
ทั้งนี้ การริเริ่มของการแข่งขัน DRC เกิดมาจากภัยพิบัตินิวเคลียร์ของโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ญี่ปุ่น ที่เกิดขึ้นเกือบ 3 ปี มาแล้ว “จะเกิดอะไรขึ้นหากเรามีหุ่นยนต์กู้ภัยที่ถูกส่งเข้าไปทำงานในสถานที่ซึ่งมนุษย์เข้าไปไม่ถึง และทำได้มากกว่าแค่สังเกตการณ์” แต่อย่างไรก็ตาม แพตต์กล่าวยอมรับว่า “หุ่นยนต์กู้ภัยที่เข้าแข่งครั้งนี้ยังไม่พัฒนาถึงขั้นนั้น มันยังต้องถูกบังคับโดยมนุษย์ ซึ่งพวกมันสามารถทำได้หลายอย่าง เช่น ขับรถ ปิดวาล์ว เดินบนพื้นที่สภาพขรุขระ ซึ่งจากที่ผ่านมาในปี 2011 หุ่นยนต์ถูกส่งเข้าไปโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเตาปฏิกรณ์ที่หลอมเหลว ซึ่งพวกมันทำได้เพียงบันทึกวีดีโอและข้อมูลอื่นๆ มากกว่าซ่อมแซม
ซึ่งในการแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยต้องผ่านทั้ง 8 ด่าน ได้แก่ ขับรถยูทิลิตีไปตามโคนจราจรที่วางไว้, เดินผ่านพื้นที่ซึ่งเอียงและมีขั้นบันได, ปีนบันได้สูง 8 ฟุต, ยกสิ่งกีดขวางออกจากประตู, เปิดประตูได้, ใช้สว่านไร้สายเจาะกำแพงเป็นรูปสามเหลี่ยม, ปิดวาล์วอากาศ 3 อัน ซึ่งแต่อันมีขนาดต่างกัน, เอาสายยางออกจาม้วนแล้วต่อเข้ากับท่อน้ำที่กำแพง
ในการแข่งขัน 2 วันที่ผ่านมายังไม่ถือเป็นรอบตัดสิน ซึ่งต้องใช้เวลาอีก 1 ปีก่อนหลังจากนั้น ซึ่ง 8 ทีมที่ได้คะแนนสูงสุดจะได้รับเงินอุดหนุนจากเพนตากอนจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ในการวิจัยเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันรอบตัดเชือกในปลายปี 2014 ซึ่งทีมที่ชนะจะได้รับรางวัล 2 ล้านดอลลาร์
ซึ่งหุ่นยนต์แอนดรอยด์ “Valkyrie” นั้นมีขนาดความสูง 6.2 ฟุต และมีน้ำหนักราว 275 ปอนด์นั้นเป็นความร่วมมือระหว่างนักวิจัยJSC และนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเทกซัส และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Texas A&M ซึ่งหุ่นยนต์กู้ภัย Valkyrie นั้นได้พลังงานจากแบตเตอรี่ในเป้ที่ติดอยู่ด้านหลังที่จะใช้ได้ราว 1 ชม.ก่อนที่จะต้องชาร์ตใหม่ นอกจากนี้ยังพบว่าแขนและขาของ Valkyrie นั้นออกแบบมาที่มนุษย์ปกติไม่สามารถทำได้
“หุ่นยนต์ของนาซานั้นมีผิวที่นุ่ม หากคุณบังเอิญชนกับมันเข้าขณะทำงานร่วมกับมัน คุณจะไม่ได้ความรู้สึกถึงผิวโลหะที่เย็นเลย คุณจะคิดไปว่าได้ทำงานใกล้กับมนุษย์คนอื่น ซึ่งวัสดุพลาสติกและไวนีลที่ทางนักวิจัยใช้เป็นส่วนผิวของตัว Valkyrie นั้นจะทำให้รู้สึกเช่นนั้น” นิโคลัส แรดฟอร์ด นักวิจัยจาก JSC เผย
