เอเอฟพี - เนปาลมีเรื่องน่ายินดีชะโลมใจอีกรอบช่วงค่ำวันพฤหัสบดี (30 เม.ย.) เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยดึงผู้รอดชีวิตรายที่ 2 ของวัน ออกจากซากหักพังของโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงกาฐมาณฑุ หรือกว่า 5 วันนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ ที่ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นไปเกือบๆ 6,000 ศพแล้ว
เจ้าหน้าที่กู้ภัยตะเกียกตะกายล่วงค่ำคืนในภารกิจช่วยเหลือดึงพนักงานประจำครัวหญิงของโรงแรมแห่งหนึ่งวัย 30 ปีเศษออกจากซากหักพังได้อย่างปลอดภัย นับเป็นรายที่ 2 ในรอบวัน หลังจากก่อนหน้านี้เด็กชายวัย 15 ปี เพิ่งได้รับความช่วยเหลือออกจากโรงแรมอีกแห่งที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ช่วงถนน
เหล่าทหารเนปาลและคณะผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจากทั้งฝรั่งเศส นอร์เวย์ และอิสราเอล ซึ่งเข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัย ส่งเสียงเชียร์และปรบมือระหว่างที่ผู้หญิงรายนี้ถูกหามขึ้นเปลไปยังรถฉุกเฉินที่จอดรออยู่ “เธอได้รับบาดเจ็บ แต่ยังมีสติและพูดคุยได้” ทหารนายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี
“เธอถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลทหาร มันยังกับว่าเธอได้เกิดใหม่อีกครั้ง” ทหารนายนี้เผย พร้อมระบุว่าผู้หญิงรายดังกล่าวมีชื่อว่ากฤษณา เทวีคาดา
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ทีมกู้ภัยสหรัฐฯ และเนปาลสามารถช่วยผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวได้อีกคน ได้แก่นายเปมบา ทามัง วัย 15 ปี ที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังนานถึง 120 ชั่วโมง โดยอาศัยน้ำมันเนย 2 กระปุกประทังชีวิตตลอด 5 วันที่ผ่านมาภายใต้ซากโรงแรมฮิลตันในกรุงกาฐมาณฑุ
ทว่า หลังจากนั้นไม่นานความดีใจกลับกลายเป็นความหดหู่ เมื่อทีมกู้ภัยซึ่งเป็นการประสานงานระหว่างกองทัพเนปาลกับยูเสด หน่วยงานบรรเทาทุกข์ของสหรัฐฯ พบร่างที่เป็นศพของวัยรุ่นอีกคน ใกล้ๆ กับบริเวณที่พบเปมบา
ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการล่าสุดของเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.8 เมื่อวันเสาร์ (25 เม.ย.) อยู่ที่ 5,844 คน และบาดเจ็บมากกว่า 10,000 ราย นอกจากนี้ยังพบผู้เสียชีวิตอีกมากกว่า 100 คนในชาติเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย และเขตปกครองตนเองทิเบตของจีน
แม้จำนวนอาฟเตอร์ช็อกนับตั้งแต่แผ่นดินไหวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ได้ลดลงแล้ว แต่แรงสั่นสะเทือนระลอกแล้วระลอกเล่ายังคงสัมผัสได้ในยามค่ำคืนของกาฐมาณฑุ
ประชาชนที่ตั้งเต็นท์ใช้ชีวิตยามค่ำคืนในที่โล่งมา 4 คืนติด ด้วยความหวาดกลัวต่ออาฟเตอร์ช็อก บางส่วนเริ่มกลับไปนอนภายในบ้านแล้ว แต่ก็ยังมีจำนวนมากที่ยังนอนเรียงรายอยู่ข้างถนนและสนามหญ้าในเมืองหลวง ซึ่งปกติแล้วมีประชากรราว 2.5 ล้านคน ในนั้นจำนวนมากเป็นแรงงานต่างด้าว
ทว่า ก็มีประชาชนอีกหลายแสนคนที่ได้เดินทางออกจากกาฐมาณฑุตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากหวาดกลัวอาฟเตอร์ช็อกและต้องการกลับไปหาครอบครัวซึ่งอาศัยอยู่นอกเมืองหลวง
สถานการณ์ในกาฐมาณฑุในวันพฤหัสบดี เริ่มคืนสู่สภาพปกติมากขึ้น ร้านค้าหลายแห่งเปิดให้บริการ ขณะที่ทางการเตรียมเปิดให้นักปีนเขากลับขึ้นไปผจญภัยบนเอเวอเรสต์อีกครั้งในสัปดาห์หน้า หลังจากซ่อมแซมความเสียหายจากหิมะถล่มอันเป็นผลพวงของแผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์เสร็จสิ้น
เจ้าหน้าที่กู้ภัยตะเกียกตะกายล่วงค่ำคืนในภารกิจช่วยเหลือดึงพนักงานประจำครัวหญิงของโรงแรมแห่งหนึ่งวัย 30 ปีเศษออกจากซากหักพังได้อย่างปลอดภัย นับเป็นรายที่ 2 ในรอบวัน หลังจากก่อนหน้านี้เด็กชายวัย 15 ปี เพิ่งได้รับความช่วยเหลือออกจากโรงแรมอีกแห่งที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ช่วงถนน
เหล่าทหารเนปาลและคณะผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจากทั้งฝรั่งเศส นอร์เวย์ และอิสราเอล ซึ่งเข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัย ส่งเสียงเชียร์และปรบมือระหว่างที่ผู้หญิงรายนี้ถูกหามขึ้นเปลไปยังรถฉุกเฉินที่จอดรออยู่ “เธอได้รับบาดเจ็บ แต่ยังมีสติและพูดคุยได้” ทหารนายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี
“เธอถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลทหาร มันยังกับว่าเธอได้เกิดใหม่อีกครั้ง” ทหารนายนี้เผย พร้อมระบุว่าผู้หญิงรายดังกล่าวมีชื่อว่ากฤษณา เทวีคาดา
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ทีมกู้ภัยสหรัฐฯ และเนปาลสามารถช่วยผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวได้อีกคน ได้แก่นายเปมบา ทามัง วัย 15 ปี ที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังนานถึง 120 ชั่วโมง โดยอาศัยน้ำมันเนย 2 กระปุกประทังชีวิตตลอด 5 วันที่ผ่านมาภายใต้ซากโรงแรมฮิลตันในกรุงกาฐมาณฑุ
ทว่า หลังจากนั้นไม่นานความดีใจกลับกลายเป็นความหดหู่ เมื่อทีมกู้ภัยซึ่งเป็นการประสานงานระหว่างกองทัพเนปาลกับยูเสด หน่วยงานบรรเทาทุกข์ของสหรัฐฯ พบร่างที่เป็นศพของวัยรุ่นอีกคน ใกล้ๆ กับบริเวณที่พบเปมบา
ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการล่าสุดของเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.8 เมื่อวันเสาร์ (25 เม.ย.) อยู่ที่ 5,844 คน และบาดเจ็บมากกว่า 10,000 ราย นอกจากนี้ยังพบผู้เสียชีวิตอีกมากกว่า 100 คนในชาติเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย และเขตปกครองตนเองทิเบตของจีน
แม้จำนวนอาฟเตอร์ช็อกนับตั้งแต่แผ่นดินไหวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ได้ลดลงแล้ว แต่แรงสั่นสะเทือนระลอกแล้วระลอกเล่ายังคงสัมผัสได้ในยามค่ำคืนของกาฐมาณฑุ
ประชาชนที่ตั้งเต็นท์ใช้ชีวิตยามค่ำคืนในที่โล่งมา 4 คืนติด ด้วยความหวาดกลัวต่ออาฟเตอร์ช็อก บางส่วนเริ่มกลับไปนอนภายในบ้านแล้ว แต่ก็ยังมีจำนวนมากที่ยังนอนเรียงรายอยู่ข้างถนนและสนามหญ้าในเมืองหลวง ซึ่งปกติแล้วมีประชากรราว 2.5 ล้านคน ในนั้นจำนวนมากเป็นแรงงานต่างด้าว
ทว่า ก็มีประชาชนอีกหลายแสนคนที่ได้เดินทางออกจากกาฐมาณฑุตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากหวาดกลัวอาฟเตอร์ช็อกและต้องการกลับไปหาครอบครัวซึ่งอาศัยอยู่นอกเมืองหลวง
สถานการณ์ในกาฐมาณฑุในวันพฤหัสบดี เริ่มคืนสู่สภาพปกติมากขึ้น ร้านค้าหลายแห่งเปิดให้บริการ ขณะที่ทางการเตรียมเปิดให้นักปีนเขากลับขึ้นไปผจญภัยบนเอเวอเรสต์อีกครั้งในสัปดาห์หน้า หลังจากซ่อมแซมความเสียหายจากหิมะถล่มอันเป็นผลพวงของแผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์เสร็จสิ้น
